สถานการณ์ปัจจุบัน, เด็กหนุ่มวัย 19 สามารถสอดแทรกมาติดทีมยูเวนตุส ชุดใหญ่ และทีมชาติอิตาลี ชุดใหญ่ เป็นผลสำเร็จ นอกจากนี้ ยังสามารถผลิตสกอร์ได้อย่างน่าชื่นชม
หากนับเฉพาะในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เขายิงไปแล้วรวม 5 ประตู ซึ่งจำนวนดังกล่าว ประกอบด้วยประตูสำคัญที่พาทีมเก็บ 3 คะแนนรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะประสบความเร็จถึงเพียงนี้ ต้องแลกมากับความยากลำบากอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตมากับครอบครัวผู้อพยพชาวแอฟริกัน และต้องต่อสู้อย่างหนัก กับการเหยียดผิวในโลกฟุตบอล
ช่วงนี้ เราไปทำความรู้จักกับเจ้าตัวเล็กๆน้อยๆ ผ่านการรวบรวมจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของยูฟ่า ซึ่งไม่แน่ว่า นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเพชรเม็ดงามคนใหม่ ที่เตรียมแจ้งเกิดในวงการฟุตบอลก็เป็นได้
คำบอกเล่าจากบุคคลใกล้ชิด
มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ผู้จัดการทีมยูเวนตุส กล่าวว่า " คีน ถือเป็นเด็กที่สามารถพัฒนาตัวเองไวมาก ทั้งในเรื่องของเชิงเทคนิค และกลยุทธ์ เขายังต้องการเวลาปรับตัวหน่อย อย่างไรก็ตาม เขาก้าวมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่แล้ว เหมือนกับนักเตะคนอื่นๆ"
จูเซ็ปเป้ มาร็อตต้า อดีตซีอีโอของยูเวนตุส กล่าวว่า " ทุกวันนี้ เราสามารถพูดถึงพวกนักเตะที่มีอนาคต ซึ่งต้องผ่านการใช้เวลาสักหน่อย ก่อนที่เราจะพูดถึงประเด็นนี้แบบจริงจังได้ กับการดูเด็กหนุ่มอายุแค่ 16 ขวบ ที่สามารถก้าวมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของยูเวนตุส อย่างไรก็ตาม นี่คือเรื่องที่ดีของวงการฟุตบอล เป้าหมายของยูเวนตุส คือการหล่อหลอมมนุษย์ให้มีคุณค่า ไม่ใช่เพียงเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยมเท่านั้น"
จิโอวานนี่ คีน พี่ชายของเขากล่าวว่า "สำหรับผมแล้ว เขาเป็นเสือร้ายเหมือนกับเธียร์รี่ อองรี และเป็นยอดนักสู้เหมือนกับคาร์ลอส เตเวซ แน่นอนว่า เขาทำงานหนักมากในสนาม และทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพราะว่าเขาเรียนรู้ทุกวันกับการเล่นให้สโมสรยูเวนตุส นั่นช่วยให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ยูเวนตุส ถือเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่จะช่วยให้เขาเติบโต"
พื้นเพ
คีน ลืมตาดูโลกในเวอร์เซลลี่ ย่านที่อยู่ห่างจากเมืองตูริน ประมาณ 70 กิโลเมตร เขาตัดสินใจเข้าสู่วงการลูกหนัง เป็นการตามรอยพี่ชาย ที่เคยผ่านการค้าแข้งในระดับกัลโช่ เซเรีย ดี และดิวิชั่น 2 ของลีกกรีซ โดยเขาเริ่มต้นกับอะคาเดมี่ของทีมเล็กๆอย่างอัสติ ก่อนขยับไปยังโตริโน่ และยูเวนตุส พร้อมกับยิงประตูอย่างถล่มทลายให้กับทีมเยาวชนของทางพลพรรค "ม้าลาย" ในทุกระดับ สถิติที่น่าสนใจคือ เขายิง 21 ประตู จากการลงสนาม 10 เกมให้กับทีมรุ่นยู-15 และยังยิง 24 ประตู จากการลงสนาม 26 เกม ให้กับทีมรุ่นยู-17 ซึ่งเขาลงเล่นด้วยการแบกอายุ และเผชิญหน้ากับเด็กที่อายุมากกว่าตลอด
สไตล์การเล่น
คีน เป็นเด็กที่มีความสามารถในเรื่องของลูกกลางอากาศ และการจบสกอร์ มักจะมีบทบาทในการลงเล่นแนวรุก โดยเฉพาะแถบส่วนกลางของสนาม นอกจากนี้ พลังที่มหาศาลของเขา สามารถวิ่งฉีกไปเล่นบอลด้านกว้างได้เป็นอย่างดี เขาเป็นนักเตะที่ครอบครองบอล และลงไปช่วยเกมรับ เมื่อทีมเป็นฝ่ายสูญเสียการครอบครองบอล
การเปรียบเทียบ
คีน ถูกนำไปเปรียบเทียบกับไอดอลเชิงลูกหนังของเขาอย่าง "มาริโอ บาโลเตลลี่" หลักฐานที่แสดงได้อย่างชัดเจนคือ เขาเคยแสดงเสื้อยืดที่สกรีนคำว่า "Why always me?" หลังจากยิงประตูได้ ในเกมกับยูเวนตุส รุ่นยู-17 (เป็นคำกล่าวที่บาโลเตลลี่ เคยใช้ในศึกดาร์บี้ แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์) แม้จะยังไม่มีการยิงไกลที่หนักหน่วงเหมือนกับ "ซูเปอร์ มาริโอ" อย่างไรก็ตาม คีน ยังเฝ้าพัฒนาในเรื่องนั้นอยู่ รวมถึงการวิ่งให้มากขึ้น เมื่อต้องการฉีกหนีแนวรับ และเล่นบอลให้ฉลาดมากกว่าเดิม
ช่วงเวลาน่าประทับใจ
ย้อนเวลากลับไปช่วงปี 2016 คีน ในวัยเพียงแค่ 16 ขวบ ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในเกมที่ยูเวนตุส เจอกับเซบีย่า ส่งผลให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เกิดหลังยุคปี 2000 และมีโอกาสลงสนามในฟุตบอลรายการนี้
คำพูดของเขาเอง
"ผมมีความสุขเป็นอย่างมาก สำหรับโอกาสลงเล่นกัลโช่ เซเรีย อา เป็นครั้งแรกในชีวิต ทว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น ผมจำเป็นต้องตั้งเป้าหมายให้สูงมากขึ้นกว่าเดิม มันเป็นเรื่องปกติ ที่ผมต้องลงสนาม และต้องเจอกับบรรดาผู้เล่นที่มีอายุมากกว่า ผมต้องเจออะไรแบบนั้นมาตลอด ส่วนตัวผมมองว่า มันไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถ" คีน
ข้อมูลทั่วไป
ชื่อ : มอยเซ่ บิโอตี้ คีน / สโมสร : ยูเวนตุส / วันเกิด : 28 กุมภาพันธ์ 2000 / ส่วนสูง : 182 เซนติเมตร / สัญชาติ : อิตาเลี่ยน / ตำแหน่ง : กองหน้า/ ถนัด : เท้าขวา
