แอตเลติโก มาดริด เปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาหลังการย้ายทีมของ อองตวน กรีซมันน์, ดีเอโก้ โกดิน, ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ, ฟีลีเป้ ลุยส์ กาสมีร์สกี้ กับ ฆวน ฟรานซิสโก้ ตอร์เรส เบเลน ฆวนฟราน ซึ่งเล่นกับทีมตราหมีมานานหลายปี รวมถึงแข้งที่อยู่กับทีมไม่นานอย่าง โรดรีโก้ เอร์นานเดซ โรดรี้, เกลซอน มาร์ตินส์ กับ ลูเซียโน่ เวียตโต้ 

ขณะเดียวกันทีมตราหมียังดึงผู้เล่นใหม่เข้าสู่ทีมมากถึง 8 คนทั้ง ชูเอา เฟลิกซ์, มาร์กอส ยอเรนเต้, เฟลีเป้ เอากุสโต้ เดอ อัลเมยด้า มอนเตยโร่, เอคตอร์ เอร์เรร่า, เรนาน โลดี้, คีแรน ทริปเปียร์, มารีโอ เอร์โมโซ่ กับ อีวาน ชาพอนยิช 

สาวก'โกลโชเนโรส'ตั้งคำถามถึงการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นมากกว่าครึ่งทีมโดยเฉพาะแนวรับที่แกนหลักหายหน้าจากชุดก่อนถึง 3 ใน 4 ตำแหน่งจะส่งผลกระทบต่อทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มากน้อยเพียงใด ทว่าจากผลงานในการลงเล่นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นคงเป็นคำตอบจากเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ว่าไม่มีต่อพัฒนาการของทีมโรฆีบลังโก้ 

แอตเลติโก มาดริด ลงเล่นเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่น 4 เกม สถิติชนะ 3 เสมอ 1 ก่อนดวลเป้าชนะ ชีวาส กวาดาลาฮาร่า โดยเสียเพียง 3 ประตู ซึ่้งเกิดขึ้นในเกมมาดริดดาร์บี้แมตช์ที่กระทุ้ง เรอัล มาดริด ด้วยสกอร์น่าเหลือเชื่อ 7-3 

จาก 8 สมาชิกใหม่ของ แอตเลติโก มาดริด แน่นอนว่า ชูเอา เฟลิกซ์ แนวรุกดาวรุ่งวัย 19 ปีที่ย้ายมาจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์สโมสรเป็นนักเตะที่ถูกจับตามองและกล่าวถึงมากที่สุดเพราะหลายคนมองว่านี่คือตัวแทนของ กรีซมันน์ เป็นความหวังใหม่ของสาวกโกลโชเนโรส

ชูเอา เฟลิกซ์ เริ่มต้นไม่สวยนักหลังเล่นไปได้เพียง 28 นาทีในเกมอุ่นเครื่องนัดแรกที่ชนะ นูมานเซีย 3-0 เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นตั้งแต่เกมประเดิมสนาม ซึ่งทีมตราหมีเลือกที่จะไม่เสี่ยงใช้งานแนวรุกดาวรุ่งชาวโปรตุกีสลงเล่นเกมอุ่นแข้งนัดต่อมากับ ชีวาส กวาดาลาฮาร่า ก่อนที่จะปล่อยลงน้ำในศึกมาดริดดาร์บี้แมตช์ โดย ซิเมโอเน่ ส่งลงสนามตำแหน่งปีกขวา 

แข้งค่าตัวแพงสุดในประวัติศาสตร์ของทีมตราหมีไม่ทำให้เทรนเนอร์และแฟนๆผิดหวังจากการทำหนึ่งประตูและอีกสองแอสซิสต์ให้ ดีเอโก้ คอสต้า ซึ่งกดคนเดียว 4 ประตูนำ แอตเลติโก มาดริด ยำใหญ่ เรอัล มาดริด 7-3 ซึ่งจากฟอร์มดังกล่าวทำให้ ชูเอา เฟลิกซ์ ได้รับเสียงชื่นชมจากทั่วสารทิศ กลายเป็นความหวังคนใหม่ของสาวกโกลโชเนโรสจนลืมเลือนฮีโร่คนเก่าอย่างกรีซมันน์อย่างสิ้นเชิง

ชูเอา เฟลิกซ์ ยังเข้ามาช่วยเพิ่มมิติในแนวรุกของ แอตเลติโก มาดริด มากขึ้นด้วย จากการเล่นระบบ 4-4-2 ที่เราคุ้นตามาโดยตลอด ซิเมโอเน่ สามารถปรับมาเล่นระบบ 4-3-1-2 อย่างเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุดกับ ทีมรวมดาราเมเจอร์ลีก ที่ทีมตราหมีสอย 3-0 ซึ่งดาวโรจน์ชาวโปรตุกีสยิงหนึ่งตุงและทำแอสซิสต์ให้คอสต้าอีกครั้ง

'โดยหลักการแล้ว เราปรับปรุงการเล่นของเราแบบนัดต่อนัด ในช่วงครึ่งแรกเราเล่นระบบ 4-3-1-2 และปรับมาเล่นอีกระบบในช่วงครึ่งหลังเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนักเตะ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกมันยอดเยี่ยมมาก มีการหมุนเวียนตำแหน่งและสร้างอันตรายในจังหวะโจมตี แต่ทีมมีปัญหาในช่วงครึ่งหลัง พวกเขากดดันเราได้มากขึ้นจากผู้เล่นคุณภาพสูง'ซิเมโอเน่ เปิดเผย

ก่อนเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์จะกล่าวถึงฟอร์มการเล่นของบรรดานักเตะหน้าใหม่โดยเฉพาะ ชูเอา เฟลิกซ์ ซึ่งทำผลงานโดดเด่นในการลงเล่น 2 เกมที่ผ่านมา 'ผมมีความสุขมากกับผู้เล่นหน้าใหม่ทุกคน เฟลีเป้ดูดีขึ้น, เอร์โมโซ่ ก็เหมือนกัน ทุกคนที่มาจากแต่ละที่มารวมตัวกันไม่ใช่เรื่องง่าย การนำผู้เล่นใหม่ทุกคนมารวมกันเพื่อให้เรามอบความรักซึ่งกันและกันเพื่อร่วมกันทำในสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ยาก'

แม้จะมีหลายคนนำ ชูเอา เฟลิกซ์ ไปเปรียบเทียบกับดาวค้างฟ้าอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมระบุว่าดาวโรจน์วัย 19 ปีมีโอกาสก้าวเดินตามรอยรุ่นพี่ทีมชาติโปรตุเกส แต่ ซิเมโอเน่ มองมุมต่างว่า'ไม่นะ ผมมองว่าเขาไม่เหมือน คริสเตียโน่ โรนัลโด้' 

แอตเลติโก มาดริด ใช้เงินสำหรับการเซ็นสัญญากับ 7 นักเตะใหม่รวมกันเกือบ 250 ล้านยูโร ยกเว้น เอคตอร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์ทีมชาติเม็กซิโกที่ย้ายมาจาก ปอร์โต้ แบบไม่มีค่าตัว แต่ทีมตราหมียังมีงบเสริมทัพอีกจำนวนหนึ่งก่อนตลาดช่วงซัมเมอร์ปิดทำการถ้าหาก ซิเมโอเน่ มองเห็นว่าเหมาะสมกับทีม

'จนกว่าจะถึงวันตลาดปิดทำการของการซื้อและขาย ยังไม่มีความสงบอย่างแท้จริงเกิดขึ้น ผมพร้อมเปิดรับกับสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้และความจริงก็คือผมไม่สามารถพูดอะไรได้มากกว่านี้'

แอตเลติโก มาดริด อาจมีการเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้ทั้งการซื้อเข้าและขายออก โดยเฉพาะเคสของ อังเคล กอร์เรอา ที่ใกล้ย้ายซบ มิลาน ซึ่งทีมตราหมีอาจต้องมองหาตัวแทนของแนวรุกชาวอาร์เจนไตน์ เช่นเดียวกับแบ็กซ้ายอีกหนึ่งคนที่ต้องดึงเข้ามาเป็นกำลังเสริมของ เรนาน โลดี้ 

แต่การกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้งของ บิคตอร์ มาชิน บีโตโล่ ก็เหมือนทีมตราหมีได้นักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพอีกคน หลังปีกวัย 29 ปีแทบจะไม่มีส่วนร่วมกับทีมของเทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์ นับตั้งแต่ย้ายมาทีมในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ก่อนถูกปล่อยไปเล่นกับ ลาส ปัลมาส ด้วยสัญญายืมตัวในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกเนื่องจาก แอตเลติโก มาดริด กำลังอยู่ในช่วงถูกลงโทษแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่ ทว่าหลังการกลับสู่ถ้ำหมี บีโตโล่ เล่นตกลงไปจากเดิมและยังมีปัญหาเรื่องสภาพความฟิตด้วย 

'ผมมองเห็นการเติบโตของเขาและมาถึงช่วงเวลาสำคัญกับเราสำหรับการเล่นในระดับที่ทำได้ในตอนนี้ แต่เขาและทุกคน รวมถึง กอร์เรอา ก็เหมือนกัน ซาอูล กับ โกเก้ ก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกัน องค์ประกอบรวมของทีมดีเยี่ยมและหวังว่าเราจะเก็บรักษามันไว้เพื่อสร้างสิ่งสำคัญบนเวทีลีกา'

สำหรับ ชูเอา เฟลิกซ์ ซึ่งทำประตูได้ทั้งสองเกมกับ เรอัล มาดริด และ ทีมรวมดาราเมเจอร์ลีก เปิดเผยหลังการทำผลงานดีว่าเขามีความสุขกับการกลับมาทำประตูอีกครั้ง 'ผมชื่นชอบการทำประตู ผมทำได้สองประตูจาก 2 เกมหลังสุดและผมมีความสุขมาก'

ก่อนจะกล่าวถึงประสบการณ์ในการดวลเกือกกับทีมรวมดาราเมเจอร์ลีกว่า 'เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้เล่นกับนักเตะหลายคนที่ผมเคยดูในทีวีมาก่อนหน้านี้' 

ชูเอา เฟลิกซ์ ยังพูดถึงการปรับตัวเข้ากับทีมใหม่ที่เขาทำได้ดีมากและปรับตัวเข้าหาทีมได้อย่างรวดเร็วทันใจว่า 'ผมคิดถึงฟุตบอลของผม เกมของผม การปรับตัวขึ้นอยู่กับนักฟุตบอลแต่ละคน แต่ผมปรับตัวได้ดี' 

ดาวโรจน์ชาวโปรตุกีสเล่นเหมือนนักเตะที่มีประสบการณ์ทั้งที่อายุเพียง 19 ปี ซึ่ง ชูเอา เฟลิกซ์ กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า 'มันเป็นอย่างนั้นเสมอ สำหรับทุกอย่างที่ผมทำ และกับที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน' 

เป้าหมายของ ชูเอา เฟลิกซ์ สำหรับตอนนี้คือการปรับตัวเข้ากับสไตล์การเล่นของ ดีเอโก้ คอสต้า เพื่อสร้างสรรโอกาสทำประตูให้กองหน้าชาวบราซิเลียนผลิตสกอร์มากขึ้นหลังแอสซิสต์ให้หัวหอกเลือดร้อนกด 3 ประตูจากการลงเล่น 2 เกมล่าสุด 'เราเข้าใจการเล่นกันเป็นอย่างดี เราพูดจาภาษาเดียวกันด้วย ซึ่งมันช่วยได้มากและผมหวังว่าผมจะช่วยทำแอสซิสต์ได้มากกว่านี้'

ก่อนจะพูดถึงการยกระดับการเล่นขึ้นไปอีกขั้นของ แอตเลติโก มาดริด ว่า 'เราทำได้ดี แต่มันเป็นแค่การเริ่มต้น แต่เราจะทำงานทุกวันเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้นเสมอและจากนั้นก็ทำผลงานที่ดีบนเวทีลีกา'

ชูเอา เฟลิกซ์ เพิ่งมีโอกาสลงเล่นร่วมกับ ดีเอโก้ คอสต้า รวมกัน 125 นาที แต่ทั้งคู่ปรับการเล่นเข้าหากันได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนดาวโรจน์ชาวโปรตุเกสจะแอสซิสต์ให้กองหน้าชาวบราซิเลียนกระทุ้งไปแล้ว 3 ประตู ซึ่งหลายคนมองว่า ชูเอา เฟลิกซ์ จะช่วยทำให้คอสต้ากลับมาเป็นกองหน้าอันตรายอีกครั้ง 

นับตั้งแต่ ดีเอโก้ คอสต้า ค้าแข้งกับ แอตเลติโก มาดริด เขาได้รับแอสซิสต์จากเพื่อนร่วมทีมทำเพียง 16 ประตูจากการลงเล่นเกมทางการ 138 นัด และตั้งแต่ย้ายกลับมาจาก เชลซี ปรากฎว่ามีเพื่อนร่วมทีมแอสซิสต์ให้เขาทำเพียงประตูเดียว ประตูส่วนใหญ่ที่กองหน้าชาวบราซิเลียนทำได้มาจากการช่วยเหลือตัวเองทั้งสิ้น

แม้ ดีเอโก้ คอสต้า จะเล่นเข้าขาเป็นอย่างดีกับ อองตวน กรีซมันน์ ก็ตาม แต่ตลอดช่วงปีครึ่งที่เล่นด้วยกัน กองหน้าชาวฝรั่งเศสแอสซิสต์ให้เพียง 4 ครั้งเท่านั้น จากการลงเล่น 41 เกม ขณะที่ คอสต้า แอสซิสต์ให้หกองหน้าชาวฝรั่งเศสและยิง 9 ประตูจากการอยู่ในสนามรวมกันน 2,989 นาที 

ทว่าการเล่นร่วมกับ ราดาเมล ฟัลเกา ก็แทบจะไม่ต่างกันหลังกองหน้าชาวโคลอมเบียนแอสซิสต์ให้คอสต้าทำเพียง 6 ประตูจากการลงเล่นร่วมกัน 33 เกมและกองหน้าชาวบราซิเลียนแอสซิสต์ให้ฟัลเกาเพียงครั้งเดียว ซึ่งอาจเป็นเพราะทั้งคู่เป็นกองหน้าที่เล่นในสไตล์เดียวกัน แตกต่างจาก กรีซมันน์ หรือ ชูเอา เฟลิกซ์ 

ดีเอโก้ คอสต้า  กลับมาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพกับ เชลซี เนื่องจากมีมิดฟิลด์จอมแอสซิสต์อย่าง เชส ฟาเบรกาส ซึ่งผ่านบอลให้เขาทำประตู 13 ครั้งจากการลงเล่น 104 เกม ขณะที่ เอแด็น อาซาร์ แอสซิสต์ให้เขาทำ 5 ประตู ช่วงที่เล่นกับ ราโย บาเยกาโน่ มี มีชู แอสซิสต์ให้ทำ 3 ประตูจากการลงเล่นร่วมกัน 15 เกม ส่วนตอนที่อยู่กับ เรอัล บายาโดลิด มี อาเลมาน เนาเซ็ต แอสซิสต์ให้ 3 ครั้ง 

ดังนั้นจากสไตล์การเล่นของ ชูเอา เฟลิกซ์ จึงน่าจะมีส่วนช่วยปลุกผี ดีเอโก้ คอสต้า กลับคืนสู่ร่างเทพอีกครั้ง 

แอตเลติโก มาดริด มีคิวลงอุ่นเครื่องทิ้งทวนการทัวร์ทวีปอเมริกาเหนือกับ อัตเลติโก ซาน หลุยส์ สโมสรเม็กซิกันในวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคมนี้ ก่อนจะลงเตะรายการ ไอซีซี คัพ นัดสุดท้ายกับ ยูเวนตุส ที่'เฟรนด์ส อารีน่า'ของสวีเดนในวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งเป็นเกมอุ่นแข้งส่งท้ายก่อนเปิดสังเวียน'ว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่'รับมือ เคตาเฟ่ ในเกมเปิดซีซั่นวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคมนี้