:::     :::

10ยอดนายทวารเมืองเบียร์

วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2564 คอลัมน์ เล่าเก่าก้าวใหม่ โดย Latino
8,881
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันและ บาเยิร์น มิวนิค ก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารระดับประวัติศาสตร์ของวงการลูกหนังเมืองเบียร์ทั้งความสำเร็จและการสร้างสถิติคลีนชีต

เยอรมนี เป็นประเทศที่น่าภาคภูมิใจในการผลิตผู้รักษาประตูที่ยอดเยี่ยมและหลายคนก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของบุนเดสลีกา โดยเฉพาะ มานูเอล นอยเออร์ ที่ทำสถิติแซงหน้า โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานผู้รักษาประตูทีมอินทรีเหล็กและทีมเสือใต้ก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารทีมเก็บคลีนชีตมากสุดในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลเมืองเบียร์ ส่วน 10 อันดับแรกของผู้รักษาประตูที่ทำสถิติคลีนชีตมากสุดมีใครบ้างไปดูกันครับ 

10.นอร์เบิร์ต นิกเบอร์

สโมสร : ชาลเก้, แฮร์ธ่า เบอร์ลิน

คลีนชีต : 120

เกม : 456

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 26.3


นิกเบอร์ เป็นจุดเริ่มต้นของการผลิตผู้รักษาประตูที่มีชื่อเสียงของ ชาลเก้ เขามีพื้นเพเป็นชาวเกลเซนเคียร์เช่น กลายเป็นตัวเลือกแรกตั้งแต่อายุ 18 ในซีซั่น 1966-1967 และอยู่กับทีมราชันสีน้ำเงินนาน 10 ปี โดยคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ซีซั่น 1971-1972 และคว้ารองแชมป์บุนเดสลีกา เขาเสียประตูน้อยสุดและยังสร้างสถิติไม่เสียประตูติดต่อกัน 555 นาทีที่ยืนยืนมากกว่าทศวรรษ สองปีต่อมาเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 ฐานะแบ็คอัพของ เซ็ปป์ ไมเออร์ 

9.แฟร้งค์ โรสต์

สโมสร : แวร์เดอร์ เบรเมน, ชาลเก้, ฮัมบูร์ก 

คลีนชีต : 121

เกม : 426

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 28.4 

โรสต์ ลงเล่นเพียง 17 เกมกับ เบรเมน ในช่วง 3 ซีซั่นแรกของเขากับสโมสร ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งตลอด 4 ปีหลังพร้อมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย (1993-1994, 1998-1999) เขาก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งแทน โอลิเวอร์ เร็ค ที่ออกจาก เบรเมน มาอยู่กับ ชาลเก้ เมื่อปี 1998 ก่อนทีมราชันสีน้ำเงินจะดึง โรสต์ มาเป็นนายทวารมือหนึ่งแทน เร็ค เมื่อปี 2002 เขายึดตำแหน่งนาน 4 ปีจนกระทั่งการก้าวขึ้นมาของ มานูเอล นอยเออร์ เมื่อปี 2006 จากนั้น โรสต์ ยังทำผลงานดีกับช่วงเวลา 4 ปีครึ่งกับ ฮัมบูร์ก ซึ่งรวมถึงการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศของ ยูฟ่า คัพ และ ยูโรปาลีก เมื่อปี 2009 กับ 2010 ก่อนจะย้ายไปยุติอาชีพกับ นิวยอร์ค เร้ด บูลล์ส ในปี 2011, โรสต์ จารึกชื่อเป็น 1 ใน 3 ประตูที่เคยทำสกอร์ในจังหวะโอเพ่นเพลย์ของบุนเดสลีการ่วมกับ เยนส์ เลห์มันน์ และ มาร์วิน ฮิตซ์ 

8.ริชาร์ด โกลซ์

สโมสร : ฮัมบูร์ก, ไฟร์บวร์ก 

คลีนชีต : 123

เกม : 453

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 27.2

โกลซ์ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจาก อูลี่ สไตน์ ตำนานผู้รักษาประตูของ ฮัมบูร์ก และก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งตั้งแต่ปี 1987 แม้ว่าเขาจะเคยลงเล่นเป็นกองหน้าในช่วงทีมสิงห์เหนือประสบวิกฤตินักเตะบาดเจ็บก็ตาม เมื่อเสียตำแหน่งให้ ฮันส์-ยอร์ก บุตต์ ในซีซั่น 1997-1998 เขาย้ายมาอยู่กับ ไฟร์บวร์ก หลังลงเฝ้าเสากับ ฮัมบูร์ก มากกว่า 300 เกม เขากลายเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลทีมจิ้งจอกแห่งป่าดำอย่างรวดเร็วและได้รับการต้อนรับด้วยเสียงเชียร์ 'ริชี่, ริชี่' เมื่อใดก็ตามที่เขาก้าวลงสู่สนาม ชวาร์ซวาลด์ สตาดิโอ โดยลงเฝ้าเสาเกือบ 250 เกมทั้งในบุนเดสลีกาและลีกาสอง

7.เยนส์ เลห์มันน์

สโมสร : ชาลเก้, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, สตุ๊ตการ์ท 

คลีนชีต : 131

เกม : 394

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 33.2 

เยนส์ เลห์มันน์ เป็นคู่ปรับตลอดกาลของ โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานผู้รักษาประตูของ บาเยิร์น มิวนิค และอดีตนายทวารมือหนึ่งทีมชาติเยอรมัน โดยเป็นฝ่ายชนะ คาห์น หลัง เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์ เทรนเนอร์ทีมอินทรีเหล็กขณะนั้นเลือก เลห์มันน์ จาก อาร์เซน่อล เป็นมือหนึ่งก่อนศึกฟุตบอลโลกปี 2006 หลังการก้าวขึ้นมาท้าทายตั้งแต่ตอนเป็นผู้รักษาประตูตัวจริงของ ชาลเก้ มานานร่วมทศวรรษ, เลห์มันน์ ช่วยเซฟจุดโทษจนมีส่วนช่วยทีมราชันสีน้ำเงินคว้าแชมป์ ยูฟ่า คัพ ปี 1997 จากนั้นเขาย้ายมาเล่นกับทีมคู่ปรับสำคัญอย่าง ดอร์ทมุนด์ หลังอยู่กับ เอซี มิลาน เพียง 6 เดือน ก่อนคว้าแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่น 2001-2002 กับทีมเสือเหลือง เขาย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล ในปี 2003 และหวนคืนลีกเมืองเบียร์หลังการเซ็นสัญญากับ สตุ๊ตการ์ท ปี 2008 เขากลับมาอยู่กับทีมปืนโตช่วงสั้นๆในปี 2011 หลังเกิดวิกฤตตำแหน่งผู้รักษาประตูและตัดสินใจแขวนถุงมือหลังจบฤดูกาล

6.เซ็ปป์ ไมเออร์

สโมสร : บาเยิร์น มิวนิค 

คลีนชีต : 137

เกม : 473

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 29.0


ไมเออร์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งครอบครัวผู้รักษาประตูชั้นยอดของวงการลูกหนังเยอรมัน เขาอยู่กับสโมสรเดียวที่ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ทุกรายการที่มีส่วนร่วม, ฟุตบอลโลก 1974, แชมป์ยุโรป 1972, แชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ 3 ปีติดต่อกัน, แชมป์บุนเดสลีกา 4 สมัย, แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 4 สมัย, แชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ และ แชมป์ อินเตอร์คอนติเนนตัล เขาเป็นที่รู้จักจากปฏิกิริยาตอบสนองที่เหมือนแมวและเป็นกระดูกสันหลังของทีมเสือใต้ยุคที่ประสบความสำเร็จมากสุดในประวัติศาสตร์ ลงเฝ้าเสากับทีมดังแคว้นบาวาเรีย 661 เกมและอีก 95 นัดกับทีมชาติเยอรมันตะวันตก ซึ่งเป็นสถิติมากสุดก่อนถูก มานูเอล นอยเออร์ ทำผลงานแซงหน้าในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี 2020

5.อูลี่ สไตน์ 

สโมสร : ฮัมบูร์ก, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, อาร์มิเนีย บีเลเฟลด์ 

คลีนชีต : 146

เกม : 512

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 28.5


สไตน์ มีชื่อเสียงในฐานะภูผาหินที่อยู่ด้านหลังทีมของเขา เขาเป็นผู้รักษาประตูที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ ฮัมบูร์ก โดยทำสถิติลงเล่นทุกนาทีในปีที่พวกเขาคว้าแชมป์บุนเดสลีกาซีซั่น 1981-1982 และ 1982-1983 ต่อด้วยการคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ฤดูกาล 1982-1983 ซึ่ง สไตน์ เสียเพียง 5 ประตูจากการลงเฝ้าเสา 9 นัด ก่อนทีมสิงห์เหนือจะสยบ ยูเวนตุส ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 เขายังเป็นรองแชมป์บุนเดสลีกาอีก 3 ครั้ง เป็นผู้รักษาประตูที่อายุมากสุดที่ลงเล่นลีกเมืองเบียร์และเป็นนายทวารคนแรกที่คว้าแชมป์ เดเอฟเบ กับสองสโมสร หลังคว้าแชมป์ครั้งแรกกับ ฮัมบูร์ก ต่อด้วย แฟร้งค์เฟิร์ต ในปี 1987 และ 1988 ตามลำดับ 

4.ไอเก้ อิมเมล


สโมสร : โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, สตุ๊ตการ์ท

คลีนชีต : 148

เกม : 534

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 27.7


อิมเมล เป็นต้นแบบของความคงเส้นคงวานับตั้งแต่เริ่มต้นกับ ดอร์ทมุนด์ เมื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีมเสือเหลืองในซีซั่น 1979-1980 เขาพลาดการลงเล่นเกมลีกเพียงนัดเดียวตลอด 7 ซีซั่นก่อนจะย้ายไปอยู่กับ สตุ๊ตการ์ท ในปี 1986 ซึ่ง อิมเมล ใช้เวลา 9 ปีกับทีมม้าขาว โดยลงเล่นทุกนาทีในซีซั่น 1991-1992 ที่ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา หลังเบียดเข้าป้ายด้วยผลต่างประตูได้-เสียที่ดีกว่า ดอร์ทมุนด์ ในวันสุดท้ายของฤดูกาล เขายังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติเยอรมันตะวันตกชุดแชมป์ยูโรปี 1980 และยังเป็นหนึ่งในขุมกำลังทีมอินทรีเหล็กชุดทำศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทั้งปี 1982 และ 1986 ก่อนจะลงเล่นส่งท้ายอาชีพกับ แมนฯซิตี้ ในช่วงปี 1995-1997 

3.โอลิเวอร์ เร็ค

สโมสร : คิกเกอร์ส ออฟเฟนบัค, แวร์เดอร์ เบรเมน, ชาลเก้  

คลีนชีต : 176

เกม : 471

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 37.4


ถ้าไม่เป็นเพราะมีสองสุดยอดผู้รักษาประตูอย่าง โอลิเวอร์ คาห์น และ อันเดรียส ค็อปเค่ ขวางหน้าอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เร็ค จะได้ลงเฝ้าเสาฐานะนายทวารทีมชาติเยอรมันมากกว่าเพียงนัดเดียวในเกมกระชับมิตรกับ ลิกเตนสไตน์ อย่างไรก็ตามในระดับสโมสร เขาเป็นตัวเลือกแรกส่วนใหญ่ในอาชีพที่เต็มไปด้วยโทรฟี่แชมป์ จากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัย, แชมป์ เดเอฟเบ โพคาล 2 ครั้ง, แชมป์ คัพวินเนอร์ส คัพ และ แชมป์เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 3 ครั้งกับ เบรเมน เขายังคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล อีก 2 ครั้ง กับ ชาลเก้ 


2.โอลิเวอร์ คาห์น

สโมสร : คาร์ลสรูห์, บาเยิร์น มิวนิค 

คลีนชีต : 196

เกม : 557

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 36.6 

ก่อน นอยเออร์ มาจะที่มิวนิค, คาห์น เป็นมาตรฐานชี้วัดคุณภาพของผู้รักษาประตูเยอรมันและ บาเยิร์น มิวนิค หลังเริ่มต้นกับสโมสรบ้านเกิดอย่าง คาร์ลสรูห์ เขากลายเป็นผู้เล่นที่ประสบความสำเร็จมากสุดของบุนเดสลีกาในช่วงเวลาของเขาก่อนจะรีไทร์ในปี 2008 จากการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 1 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, อินเตอร์คอนติเนนตัล 1 สมัย และ แชมป์เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 5 ครั้ง ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นบอร์ดบริหารของทีมเสือใต้ในปัจจุบัน ส่วนสถิติและความสำเร็จของเขากำลังถูกทำลายลงโดยนายทวารรุ่นหลังอย่าง มานูเอล นอยเออร์ 

1.มานูเอล นอยเออร์

สโมสร : ชาลเก้, บาเยิร์น มิวนิค 

คลีนชีต : 197

เกม : 423

เปอร์เซ็นต์คลีนชีต : 47.0 

นอยเออร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นผู้รักษาประตูดีที่สุดในโลก เขาเพิ่งสร้างสถิติเก็บคลีนชีต 197 เกมจากการลงเฝ้าเสา 423 นัดในเกมกับ เอาก์สบวร์ก นัดที่ 17 ของซีซั่นเมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา หลังก้าวขึ้นมาเป็นนายทวารมือหนึ่งของ ชาลเก้ เมื่อปี 2006 ก่อนย้ายมาสร้างความยิ่งใหญ่กับ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปี 2011 เขากวาดแชมป์มากมายกับทีมเสือใต้ ทั้งแชมป์บุนเดสลีกา 8 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 5 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 2 สมัย, ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย และ แชมป์เยอรมัน ซูเปอร์ คัพ 5 ครั้ง เขายังมีเปอร์เซ็นต์การทำคลีตดีที่สุดในบรรดาผู้รักษาประตู 10 อันดับแรก 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด