:::     :::

รับมือกับสิ่งที่มองไม่เห็น

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2565 คอลัมน์ ผีตัวที่ 13 โดย โกสุ่ย
1,790
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
การปราชัยที่ กูดิสัน พาร์ค เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเท่ากับว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สะกดคำว่าชนะได้เพียงหนเดียวจาก 7 เกมหลังสุดที่ลงสนามทุกรายการ และหมายถึงโอกาสไป แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าแทบเป็นไปได้ไม่ได้

หากพิจารณาจากคะแนนที่เหลืออยู่กับเกมลงสนามอีก 7 นัดก็ยังพอคิดได้ว่ามีช่องทางหรือมุมให้พลิกสถานการณ์ แต่หากมองไปที่ผลงานก็แทบจะม้วนเสื่อรอลุ้นให้เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น

ปัญหาสำคัญในช่วงที่ผ่านมาคือการจบสกอร์ที่แทบจะไม่สามารถสร้างความอันตรายให้คู่แข่งได้เลย แม้จะสอยตาข่าย ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ได้ถึง 3 ประตูแต่มันมาจากความยอดเยี่ยมของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ปล่อยของออกมาในเกมนั้น

ที่เหลือเป็นกันอย่างที่เห็นกันนั่นแหละ แม้นักเตะผีแดงจะครองบอลหรือทำเกมได้ดีกว่าคู่แข่งในบางช่วงของเกม แต่ต้องตกม้าตายในจังหวะสุดท้ายไม่สามารถหาช่องเข้าทำหรือสร้างโอกาสจะแจ้งเล่นงานฝั่งตรงข้ามได้จังเบอร์

นัดล่าสุดเป็นอีกหนึ่งหลักฐานชั้นดีที่แสดงให้เห็นว่าการจบสกอร์กลายมาเป็นเรื่องที่กัดกินและเล่นงานทีม ซึ่งมันส่งผลไปยังฟอร์มการเล่นรวมไปถึงผลการแข่งขันในช่วงที่ผ่านๆ มา

ครองเกมได้ดีกว่าแต่ไม่มีโอกาสหรือเมื่อมีแล้วไม่เด็ดขาดพอก็แทบจะไร้ผล กลับกันคู่แข่งขอโอกาสไม่มากแต่ทำประตูได้มันจึงเป็นความแตกต่างอย่างชัดเจนในนัดล่าสุด





แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะออกนำในช่วงต้นเกมที่ กูดิสัน พาร์ค โดยทั้งสองจังหวะมาจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งแน่นอนว่าต้องชม จอร์แดน พิคฟอร์ด ที่ป้องกันได้ดี แต่ทางหัวหอกหมายเลข 10 ปิศาจแดง ก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้โดยเฉพาะจังหวะโขกในนาทีที่ 12

รูปเกมดำเนินไปไม่ต่างจากนัดอื่นๆ ผีแดง ครองบอลเข้าทำพยายามหาช่องเล่นงาน แต่ทำไปทำมากลับโดนประตูก่อน

จะถือเป็นคราวซวยหรือโชคชะตาขีดเขียนให้เป็นเช่นนั้น เพราะจังหวะยิงของ แอนโธนี่ กอร์ดอน ดันไปแฉลบ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เปลี่ยนทางเข้าประตู สร้างประเด็นให้กองหลังกัปตันทีมปิศาจแดงกลายเป็นตัวตลกอีกครั้ง

ที่เหลือก็เป็นไปอย่างที่เห็น แม้ทีมเยือนจากแมนเชสเตอร์ครองบอลมากกว่า หาโอกาสหมายตีเสมอ แต่ก็ทำได้แค่นั่น ไม่ได้สร้างความอันตรายหรือกดดัน พิคฟอร์ด เท่าที่ควร กลายมาเป็นภาพเดิมๆ ที่ติดตาสาวกปิศาจแดงในช่วงหลัง

ปัญหาจริงๆ นอกเหนือจากการจบสกอร์หรือการเข้าทำในจังหวะสุดท้ายหนีไม่พ้นสภาพจิตใจของนักเตะที่ถูกกดทับอย่างหนัก มันคือแรงกดดันที่ค่อยๆ โถมเข้าไปสู่นักเตะ แม้การซ้อมต่างๆ ที่สโมสรเผยภาพออกมาให้เห็นยังคงมีรอยยิ้มอาบหน้าผู้เล่นปิศาจแดง แต่ใครจะไปรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังอาจจะมีสิ่งที่มองไม่เห็นคอยเกาะกินหรือปกคลุมสโมสรอย่างช้าๆ และตอนนี้ได้เแผ่ขยายจนหยั่งรากลึก

เท่าที่เห็นในช่วงที่ผ่านมา เมื่อนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ดลงสนาม สีหน้าท่าทางค่อยๆ เปลี่ยนไป แน่นอนว่าทุกๆ คนต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น แต่ภายใต้สิ่งเหล่านั้นมันกลับมีเรื่องของความไม่มั่นคงและสั่นคลอนออกมาทางสายตาหรือภาษากาย

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่านักเตะปิศาจแดงอาจจะกำลังต่อสู้กับแรงกดดันที่กดทับพวกเขาอยู่ และอาจจะรวมไปถึงความคาดหวังมหาศาลที่มาจากทุกสารทิศ ซึ่งเวลาผ่านไปพร้อมผลการแข่งขันอันน่าผิดหวัง สิ่งเหล่านั้นก็ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นเพิ่มน้ำหนักกลายเป็นสิ่งที่ผู้เล่นต้องแบกไว้บนบ่าอย่างไม่รู้ตัว





มันเหมือนวัฏจักรที่วนเวียนไปมา จบเกมแบบน่าผิดหวังก็จะมีคนบอกให้มองไปข้างหน้า ลืมความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพราะเป้าหมายใหญ่ของทีมยังคงรออยู่

แต่สิ่งที่เห็นคือ ถึงจะมีการออกมาพูดในลักษณะดังกล่าว นักเตะกลับไปรวมตัวฝึกซ้อมสร้างบรรยากาศที่ดีออกมา ทว่าพอได้เวลาลงสนามอีกครั้งแรงกดดันและความคาดหวังที่ว่ากลับมากดทับนักเตะอีกครั้ง ทำให้ผลงานออกมาซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้จบ

นอกเหนือไปจากผลงานที่กำลังย่ำแย่ เรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือสภาพจิตใจของนักเตะที่กำลังเจอเรื่องเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องไม่สำคัญแต่หากปล่อยไว้นานๆ มันจะค่อยๆ เกาะกุมกัดกินความคิดนักเตะจนไม่สามารถสลัดให้หลุดพ้นไป

ปัจจัยที่จะทำให้นักเตะหลุดพ้นได้ดีที่สุดคือการเอาชนะเกมการแข่งขัน นั่นคือก้าวแรกของการปัดเป่าเมฆดำที่กำลังปกคลุมเหนือ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ก้าวต่อไปก็เป็นเรื่องยากไม่แพ้กันเพราะมันคือการยืนระยะรักษาผลงานซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด พยายามทำตลอดแต่ดูเหมือนว่ายังมีกำแพงสูงลิบให้พวกเขาทำลายหรือก้าวผ่านไป

งานสำคัญนอกเหนือจากการกลับมาคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง มันคือการปรับสภาพจิตใจและแนวคิดของทีมไม่ให้สั่นคลอนอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงหลัง

ถึงตรงนี้ทุกๆ คนในทีมคงกลับไปทบทวนถึงความผิดพลาดที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ก็ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะตระหนักพร้อมมุ่งมั่นแก้ไขเพื่อสร้างผลงานส่งท้ายฤดูกาลให้ออกมาน่าประทับใจ เพราะท้ายที่สุดแม้ทีมอาจจะพลาดเป้าหมายไปแต่หากทุ่มเทเต็มที่และแสดงผลงานที่ดีออกมา ดีไม่ดีแฟนบอลอาจจะให้โกรธน้อยลงกว่าเดิมก็เป็นไปได้



ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด