:::     :::

ปืนใหญ่...ตายแล้วฟื้น

วันพฤหัสบดีที่ 25 สิงหาคม 2565 คอลัมน์ ในกะลาครอบ โดย พาสต้า
908
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ทีมตัวจริงที่ชัดเจน, เกมรุกที่ฟื้นคืนชีพ และกระบวนการที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่น...

ย้อนกลับไปเมื่อ 12 เดือนที่แล้ว อาร์เซน่อล อยู่ในอาการโคม่าหลังออกสตาร์ทในลีกได้ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แต่ตอนนี้กับการที่เริ่มต้นซีซั่นด้วยชัยชนะ 3 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2004 ปืนใหญ่ ก็ทะยานไปนั่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกอย่างภาคภูมิ

มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง โดยชัยชนะ 3-0 ที่ บอร์นมัธ เมื่อวันเสาร์ทำให้พวกเขาขึ้นจ่าฝูงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี และกลายเป็นทีมเดียวในลีกที่ยังคงสถิติ 100 เปอร์เซ็นต์ในฤดูกาลนี้

3 เกม 3 ชัยชนะ ทำได้ 9 ประตู และเสียแค่ 2 ลูก

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ตอนที่ อาร์เซน่อล ร่วงไปรั้งบ๊วย โดยแพ้ 3 เกมแรกแบบทำประตูไม่ได้ นั่นแหละคุณจึงสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมทุกคนในสโมสรถึงรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าในตอนนี้

งานของ อาร์เตต้า อยู่ในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเมื่อ 1 ปีที่แล้ว แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เขาเดินออกจากสนามไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม แฟนบอลทีมเยือนต่างตะโกนร้องชื่อเขาสุดเสียง

"สภาพทางอารมณ์ของเราแตกต่างกันมาก" กุนซือ ปืนใหญ่ ยอมรับเมื่อถูกขอให้เปรียบเทียบความรู้สึกโดยรอบสโมสรในตอนนี้กับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อ 12 เดือนก่อน

"คุณสังเกตุได้เป็นรายคนเลย และมันก็ชัดเจนกับทุกๆ คน ที่อยู่รอบๆ สโมสร เพราะความพ่ายแพ้นั้นมีผลกระทบด้านลบอย่างมาก ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะเล่นอย่างไร หรือบริบทจะเป็นอย่างไร"

"ชัดเจนว่าทุกคนมีความสุข ทุกคนสนุกไปกับมัน และเราจำเป็นต้องรักษาช่วงเวลานั้นไว้ ถ่อมตัว และปรับปรุงต่อไป"

อาร์เตต้า ยืนกรานหลังเกมเมื่อวันเสาร์ที่ขึ้นจ่าฝูงในพรีเมียร์ลีกว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

"มันก็แค่ 3 เกม มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย"

"ความหมายคือเราเอาชนะได้ 3 เกม เราทำประตูได้ เก็บคลีนชีตได้ และทีมกำลังเล่นได้ดี"

แน่นอนว่า อาร์เตต้า พูดถูกที่บอกว่าการขึ้นเป็นจ่าฝูงในตอนนี้มีความหมายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่สิ่งที่ เดอะ กันเนอร์ส แสดงให้เห็นในการออกสตาร์ทซีซั่นนี้บ่งบอกแล้วว่ามันมีความแตกต่างจาก 12 เดือนก่อนอย่างไรบ้าง

ดูทีมที่แพ้ยับ 5-0 ในการไปเยือน แมนฯ ซิตี้ เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ปี 2021 สิ ความพ่ายแพ้นั้นส่งให้ทีมของ อาร์เตต้า ลงไปจมบ๊วยในพรีเมียร์ลีก โดยไม่มีทั้งแต้ม และประตูที่ยิงได้เลย

มีผู้เล่นเพียง 3 คน จาก 11 ตัวจริงในวันนั้นที่หลงเหลือมาออกสตาร์ทในนัดกับ บอร์นมัธ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็คือ บูคาโย่ ซาก้า, กรานิต ชาคา และ มาร์ติน โอเดการ์ด

การเปลี่ยนแปลงนั้นเห็นผลอย่างมาก

อาร์เซน่อล ไม่เป็นระบบระเบียบเลยเมื่อ 1 ปีที่แล้ว โดย 3 เกมแรกในตอนนั้นพวกเขามีโอกาสยิงตรงกรอบเพียง 7 ครั้ง ผิดกับฤดูกาลนี้ที่ทำได้ถึง 15 ครั้ง

ในทางตรงกันข้าม พวกเขาถูกคู่แข่งส่องไป 55 ครั้ง (ตรงกรอบ 18 ครั้ง) ขณะที่ฤดูกาลนี้ลดลงเหลือ 22 ครั้งเท่านั้น (ตรงกรอบ 5 ครั้ง)

การพัฒนาทั้งสองด้านของพวกเขาในสนามนั้นแข็งแกร่งมาก

กาเบรียล เชซุส ได้เปลี่ยนโฉมแนวรุกของ ปืนใหญ่ อย่างชัดเจน ขณะที่ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ก็เพิ่มคุณภาพให้กับทีมอย่างมาก

ทั้งสองสร้างผลงานได้อย่างน่าทึ่งหลังย้ายมาจาก แมนฯ ซิตี้ ขณะที่ฟอร์มอันน่าเหลือเชื่อของ วิลเลี่ยม ซาลีบา หลังกลับมาจากการยืมตัวกับ มาร์กเซย นั้นทำให้ทีมเก็บไป 2 คลีนชีตจาก 3 เกม

"เขาช่างน่าเหลือเชื่อ" ซินเชนโก้ พูดถึง ซาลีบา หลังเกมชนะ บอร์นมัธ

"ดูเหมือนว่าชายคนนี้มีประสบการณ์มากมาย แต่เขายังเด็กมาก เรามีเซนเตอร์แบ็กที่น่าเหลือเชื่อ"

เชซุส, ซินเชนโก้ และ ซาลีบา ได้เพิ่มคุณภาพมากมายให้กับทีมตัวจริงของ อาร์เซน่อล ในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของฤดูกาล และเรายังคงรอดูด้วยว่า ฟาบิโอ วิเอร่า ที่ถูกซื้อมาในราคา 30 ล้านปอนด์ จะเป็นอย่างไร

เป็นที่คาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาเพิ่มอีกอย่างน้อย  1 คนก่อนปิดตลาดช่วงซัมเมอร์ ตอนนี้ ปืนใหญ่ ดูแข็งแกร่ง และปรับตัวได้ดี โดย อาร์เตต้า มีตัวเลือกมากมายให้ใช้งานยามจำเป็น

แต่ก็ไม่ใช่แค่ในสนามเท่านั้นที่ อาร์เซน่อล เปลี่ยนไป

กับนอกสนาม เดอะ กันเนอร์ส ก็อยู่ในสถานะที่มีความเป็นหนึ่งเดียวมากกว่าที่เคยเป็นมาตลอดหลายปี

อาร์เตต้า และ เอดู ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิก ได้ขอให้แฟนๆ เชื่อมั่นในกระบวนการ ซึ่งเริ่มต้นเมื่อกุนซือชาวสเปนถูกแต่งตั้งเข้ามาตอน 3 ปีที่แล้ว และความอดทนนั้นก็ได้รับการตอบแทน

ทีมได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด โดยไม่กลัวที่จะเขี่ยพวกแข้งบิ๊กเนม และดาวเตะที่รับค่าเหนื่อยมหาศาลจากยุคก่อนๆ ออกไป

ถูกอย่างได้ถูกจัดการแล้ว โดย อาร์เตต้า ทำงานอย่างหนักเพื่อนำทุกคนมารวมกัน ตั้งแต่ผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ไปจนถึงทีมโค้ช และทีมงานรอบๆ สนามซ้อม

แหล่งข่าวของสโมสรยกย่องการปรีซีซั่นที่ผ่านมาว่าเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญ

มันเป็นปรีซีซั่นตามปกติครั้งแรกของ อาร์เตต้า นับตั้งแต่ที่เขามาถึงสโมสร ด้วยมาตรการโควิดที่ถูกยกเลิกไปแล้ว เขาจึงสามารถทำงานร่วมกับผู้เล่นของเขาได้โดยไม่มีข้อจำกัด

อาร์เซน่อล ทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อซื้อผู้เล่นเป้าหมายที่สำคัญได้ตั้งแต่ต้นซัมเมอร์ ดังนั้นพวกเขาจึงมีเวลามากมายในการปรับตัวก่อนที่ฤดูกาลจริงในพรีเมียร์ลีกจะเริ่มขึ้น

ทั้ง เชซุส และ วิเอร่า ถูกเซ็นสัญญามาตั้งแต่ก่อนไปทัวร์สหรัฐอเมริกา ขณะที่ ซินเชนโก้ นั้นย้ายมาขณะทัวร์พอดี และ ปืนใหญ่ ก็ให้เขาบินไปฟลอริดาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมในทันที

อาร์เตต้า ใช้การเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แนบแน่นภายในทีม

เขาทำให้แน่ใจว่าผู้เล่นจะเปลี่ยนโต๊ะกินอาหารระหว่างมื้อในแต่ละวันเพื่อที่จะได้นั่งข้างเพื่อนร่วมทีมทุกคน

นอกจากนี้ ในคืนหนึ่ง อาร์เตต้า ก็จัดปาร์ตี้กับนักเตะ และทีมงานทุกคนของสโมสรด้วยการทำบาร์บีคิว ทุกโต๊ะปะปนกันหมด และมีการเล่นเกมแข่งขันกันตลอดทั้งคืนเพื่อนำทุกคนมารวมกัน

ปาร์ตี้ช่วงซัมเมอร์อีกงานก็ถูกจัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วในลอนดอน โคลนี่ย์ โดยมีสต๊าฟจากเฮล เอนด์ และออฟฟิสไฮบิวรี่ เฮาส์ นำโค้ชทั้งหมดไปยังสนามซ้อมเพื่อพบปะสังสรรค์ ซึ่งก็มีทั้งทีมฟุตบอลชาย และหญิงด้วย

ที่นั่นมีทั้งบาร์บีคิว และปาเอยา ขณะที่ทั้ง อาร์เตต้า และ โยนาส ไอเดวอลล์ (กุนซือทีมฟุตบอลหญิง) ก็ขึ้นไปบนเวที และถามตอบ

นับตั้งแต่วินาทีที่ อาร์เตต้า ลา แมนฯ ซิตี้ กลับมายัง อาร์เซน่อล ในปี 2019 เขาก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะพยายามสร้างทีมที่เขาพบว่ามันพังเละเทะจากช่วงเวลาที่ยากลำบากตลอดหลายปีที่ผ่านมา

กระบวนการนั้นไม่ได้รวดเร็วอะไร แต่คงมีน้อยคนที่จะโต้แย้งว่าในฐานะสโมสร อาร์เซน่อล ในตอนนี้มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกว่าหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งสิ่งห่อหุ้มอย่างสมบูรณ์แบบก็มาจากการสนับสนุนที่ทีมได้รับจากแฟนๆ นับตั้งแต่เริ่มต้นซีซั่น

ตัวอย่างสำคัญก็คือทั้งเอมิเรตส์ ต่างพากันซัพพอร์ต ซาลีบา หลังจากที่เขาก่อความผิดพลาดทำเข้าประตูตัวเองในเกมกับ เลสเตอร์ เช่นเดียวกับความจริงที่ว่าแฟนๆ ทีมเยือนร้องเพลงเรียกชื่อ กรานิต ชาคา ที่ บอร์นมัธ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นได้เมื่อไม่นานมานี้

การสนับสนุนของ อาร์เซน่อล ในตอนนี้สะท้อนให้เห็นถึงทีมในหลายๆ ด้าน มันเป็นพลังที่ได้รับในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มมีฐานแฟนบอลอายุน้อยจากทั้งเกมเหย้า และเกมเยือน

บรรยากาศที่ดีก็เกิดขึ้นรอบๆ ทีม และนั่นคือสิ่งที่ อาร์เตต้า พยายามขับเคลื่อนมาตลอดตั้งแต่ที่เขาเข้ามาแทนที่ อูไน เอเมรี่

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่เขาจะต้องรู้ก็คือ แม้จะออกสตาร์ทซีซั่นได้อย่างสวยหรู แต่หนทางก็ยังอีกยาวไกล และน่าสยดสยอง

"เรายังทำได้ดีกว่านี้อีกมาก" เขากล่าวหลังชัยชนะที่ บอร์นมัธ

"ตอนนี้เราเริ่มต้นซ้อมกันอีกครั้ง และทำสิ่งอื่นๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม โฟกัสอยู่ที่ ฟูแล่ม (เกมวันเสาร์ที่จะถึงนี้)"

การพัฒนาของ อาร์เซน่อล ภายใต้การนำทัพของ อาร์เตต้า นั้นชัดเจนมาก และวันที่มืดมนเมื่อ 12 เดือนก่อน ตอนนี้รู้สึกว่ามันผ่านมานานมากแล้ว

แต่ก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทำ แม้ว่ากระบวนการจะกำลังก้าวไปข้างหน้า แต่ยังก็ยังคงไกลจากคำว่าสมบูรณ์แบบ


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})