สิงโตน้ำเงินครามตัวใหม่ " มาร์ก คูคูเรญ่า"
สำหรับ “มาร์ก คูคูเรญ่า” ด้วยค่าตัวมหาศาล มากกว่า 62 ล้านปอนด์ !! พร้อมกับเป็นความหวังในตำแหน่งแบ็คซ้าย ทำหน้าที่เล่นเกมรับ และเติมเกมบุกให้กับทีม ถือเป็นนักเตะที่โชว์ฝีเท้าอย่างน่าประทับใจ จากเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา โดยเชลซี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะสานต่อฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมได้ต่อไป
ช่วงนี้ เราลองย้อนกลับไปดูเส้นทางลูกหนังของ มาร์ก คูคูเรญ่า กันหน่อยดีกว่า ลองไปดูว่า จากจุดเริ่มต้นที่บาร์เซโลน่า เขากลายมาเป็นนักเตะพรีเมียร์ลีกกับไบรท์ตัน และทีมดังอย่างเชลซี ได้อย่างไร บอกเลยว่า แต่ละย่างก้าว ไม่เคยเป็นเรื่องที่ง่ายเลย โดยต้องแลกมากับหยาดเหงื่อ และแรงกายอย่างมหาศาลด้วย
มาร์ก คูคูเรญ่า เกิด และเติบโตที่หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างจากบาร์เซโลน่า ประมาณ 10 นาที เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับอะคาเดมี่ของเอสปันญ่อล ก่อนจะย้ายข้ามไปอีกฟากของเมือง ด้วยการเข้าระบบเยาวชนชื่อก้องโลกอย่าง “ลา มาเซีย“
“การย้ายไปบาร์เซโลน่า ทำให้ผมรู้สึกประหม่าเหมือนกัน เพราะผมอยู่กับอะคาเดมี่ของเอสปันญ่อล มาเป็นเวลานาน” เขาเริ่มเล่า “กระนั้น นี่ถือเป็นโอกาสที่ดี ครอบครัวของผมหลายคน ก็เป็นแฟนบอลของบาร์เซโลน่า นี่คือหนึ่งสโมสรที่ดีที่สุดในโลก”
“ตอนที่ผมอยู่กับบาร์เซโลน่า ทีมชุดใหญ่ของเรามีลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ และหลุยส์ ซัวเรซ ทีมทุกระดับของเรามีปรัชญาเหมือนกัน ทั้งแนวทางการเล่นฟุตบอล และการเคลื่อนที่ในสนาม”
คูคูเรญ่า ที่เริ่มต้นกับทีมสำรองของบาร์เซโลน่า กล่าวต่อไปว่า “สำหรับผมแล้ว ผมได้เรียนรู้หลายอย่างมากเลย จากการค้าแข้งที่บาร์เซโลน่า บางครั้ง ผมก็มีโอกาสฝึกซ้อมร่วมกับทีมชุดใหญ่ แถมไปทัวร์ที่อเมริกา ในช่วงปรีซีซั่น เมื่อคุณได้สัมผัสกับนักเตะชั้นนำ คุณก็จะได้เรียนรู้”
“ช่วงแรก ผมรู้สึกประหม่ามาก ผมจำไม่เคยลืมว่า ช่วงเวลาที่ผมเจอหน้าฮาเวียร์ มาสเคราโน่ เป็นครั้งแรก เขาพูดกับผมว่า -สวัสดียามเช้า- ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ผมเกร็งสุดๆ”
ผลสุดท้าย คูคูเรญ่า ลงเล่นให้บาร์เซโลน่า เบ รวมแล้ว 48 เกมด้วยกัน เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เมื่อเขาลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ เพียงแค่ 1 เกมเท่านั้น ก่อนจะถูกขายขาดให้กับเกตาเฟ่ ก่อนที่ผลงานที่น่าประทับใจ ทำให้เขาถูกไบรท์ตัน ดึงตัวมาร่วมทีม
“ครั้งแรกที่ผมมาถึงที่นี่ ถือเป็นเรื่องที่ยากมาก” เขาเล่าถึงประสบการณ์ ในการย้ายออกนอกบ้านเกิดครั้งแรก ด้วยการมาเล่นที่เกาะอังกฤษ “ผมพูดภาษาอังกฤษ ไม่ค่อยเก่ง ผมพูดได้ 3-4 คำเท่านั้น”
“ผมยอมรับว่า ผมไม่มีความสุขเลย เพราะนี่ไม่ใช่ตัวตนของผม การพาลูกไปหาหมอก็เป็นเรื่องยาก การพูดคุยกับคุณครูก็เป็นเรื่องยาก ผมไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษ เพื่ออธิบายสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ผลสุดท้าย ผมก็ปรับตัวได้ ตอนนี้ ผมสามารถไปคาเฟ่, ท่าเรือ หรือร้านค้าได้แล้ว”
นอกจากการปรับตัวนอกสนามแล้ว แง่ของฟุตบอล เขาก็ต้องเจอแบบทดสอบสุดหินเช่นเดียวกัน เพราะพรีเมียร์ลีก กับลาลีกา มีจังหวะฟุตบอลที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
โดยกล่าวว่า “พรีเมียร์ลีก เน้นการใช้ร่างกายมากกว่าลาลีกา นักเตะที่ลีกอังกฤษ รวดเร็วกว่า, กดดันกว่า และมีการแข่งขันที่เข้มข้น คุณต้องส่งบอลให้ไวมากกว่าเดิม แฟนบอลที่นี่สุดยอดมากด้วย บรรยากาศในสนามเสียงดังสุดๆ น่าทึ่งมาก ตอนนี้ พรีเมียร์ลีก อาจเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก”
ที่ไบรท์ตัน เขาลงเล่นได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเซนเตอร์แบ็ค รวมถึงแบ็คซ้าย เพียงฤดูกาลแรก เขาก็สามารถคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของ “เดอะ ซีกัลล์ส” เป็นผลสำเร็จ ผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขาถูกเชลซี คว้าตัวมาร่วมทีม ด้วยค่าตัวบวกกับแอด-ออนส์ มากกว่า 62 ล้านปอนด์
จากนี้ไป กราบซ้ายของ “สิงโตน้ำเงินคราม” จะมีเขาที่ช่วยเล่นเกมรับ และเติมเกมบุก พร้อมกับเอกลักษณ์สำคัญอย่าง “การไว้ผมยาว” ซึ่งเป็นทรงในความทรงจำวัยเด็ก ระหว่างเขากับคุณแม่
“ย้อนเวลากลับไป ตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ผมเริ่มไว้ผมยาว แม่ของผมชอบให้ลูกชายไว้ผมยาว ผมจึงไว้แบบนี้มาเสมอ ตอนนี้ มันกลายเป็นส่วนหนึ่งในบุคลิกของผมไปแล้ว ผู้คนก็ชอบมันนะ เวลาที่ผมย้ายสโมสร หรือเจอผู้คนใหม่ๆ พวกเขามักถามผมเสมอว่า -ทำไมนายต้องไว้ผมยาวด้วยล่ะ ?- ผมตอบกลับเพียงว่า ผมแค่ชอบมัน” คูคูเรญ่า ทิ้งท้าย