:::     :::

ผู้รักษาประตูในแบบฉบับ "อลิสซน เบ็คเกอร์"

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม 2566 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
464
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตั้งแต่ที่ย้ายมาร่วมสโมสรลิเวอร์พูล ในช่วงปี 2018

“อลิสซน เบ็คเกอร์” สถาปนาตัวเอง จนก้าวมาเป็นผู้รักษาประตูมือ 1 ของทีม ค่าตัวสถิติโลกของผู้รักษาประตูในช่วงเวลานั้น ที่ลิเวอร์พูล จ่ายให้กับโรม่า ที่ประมาณ 67 ล้านปอนด์ กลายเป็นจำนวนเงินที่คุ้มค่าทุกเพนนี


อลิสซน กลายมาเป็นกำแพงเหล็กด่านสุดท้าย สร้างความแข็งแกร่งในแนวรับ และเป็นอ็อปชั่นเสริม ในการเปิดเกมบุก จากหน้าปากประตูตัวเอง การพาทีมลิเวอร์พูล คว้าครบทุกแชมป์ในรายการหลัก ถือเป็นเครื่องยืนยันความสามารถของเขาได้เป็นอย่างดี 


ด้วยวัย 31 ปี สำหรับตำแหน่งของผู้รักษาประตู ยังคงเหลือเวลาให้อลิสซน โลดแล่นบนผืนหญ้าอีกพอสมควร และยังคงเหลือเวลา ในการช่วยให้ลิเวอร์พูล เดินหน้าไล่ล่าความสำเร็จ และเกียรติยศต่อไป ฤดูกาลนี้ อลิสซน เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะช็อตเซฟสำคัญ


ช่วงนี้ เราลองไปดูคล็ดลับ ในการเป็นผู้รักษาประตูของอลิสซน กันหน่อย ลองไปดูกันว่า เขาอาศัยปัจจัยอะไรบ้าง ในการก้าวเป็นนายด่านระดับโลก


สำหรับผู้รักษาประตูกับ “การสื่อสาร” ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เราจะสังเกตเห็นเลยว่า นายทวารส่วนมาก ชอบตะโกนกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม กระนั้น อลิสซน เป็นผู้รักษาประตูที่มีแนวทางแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โดยเขาไม่ชอบที่จะตะโกน หรือด่าทอใครในสนามแข่งขัน 


อลิสซน เริ่มเล่าปรัชญาการเล่นฟุตบอลของตัวเอง  “ผมไม่ชอบตะโกนใส่ใคร และไม่ชอบให้ใครมาตะโกนใส่ผมด้วย” 


เขามองว่า ทุกคนล้วนเป็นมนุษย์ ที่สามารถก่อความผิดพลาดกันได้ ดังนั้น การคอยให้กำลังใจ และความสามัคคี ก็เป็นอีกหนึ่งทางออกเหมือนกัน อลิสซน กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “เมื่อคุณทำผิด คุณจะรู้ว่าคุณทำผิด เราต่างเป็นมืออาชีพ แน่นอนว่า เราทำงานหนักทุกวัน เพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้”


“ผมทำผิดพลาดหลายต่อหลายครั้งในชีวิต บางครั้ง ความผิดพลาดก็นำผมไปสู่เป้าหมาย บางครั้ง มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ผมรู้ว่า ผมจำเป็นต้องปรับปรุงอะไร และต้องทำอะไรที่มันแตกต่างออกไป นี่คือสไตล์ของผม” 


“ดังนั้น ผมไม่จำเป็นต้องตะโกนบอกเฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค, โจ โกเมซ หรือแอนดี้ โรเบิร์ตสันว่า พวกเขาจำเป็นต้องทำอะไรที่แตกต่างออกไป เราเลือกที่จะสื่อสารกัน มุ่งเน้นที่เรื่องที่ทำให้สบายใจ เพื่อให้เราสามารถก้าวเดินต่อไปได้” 


“ผมไม่เชื่อว่า เมื่อคุณเสียประตู หรือทำผิดพลาดไป คุณควรเลือกชี้นิ้วไปที่ใครสักคน ผมเชื่อในวิธีที่แตกต่างออกไป สุดท้ายแล้ว ผมมองว่า การตะโกนใส่กันไม่ใช่ทางออกทางเดียวเสียหน่อย คุณสามารถพูดในวิธีที่ดีกว่า และค้นหาการแก้ไขปัญหาได้เหมือนกัน”

อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้ว อลิสซน เป็นผู้รักษาประตูที่ใช้เท้าดีที่สุดคนหนึ่งของโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน “การเล่นด้วยเท้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่อลิสซน นำมาสู่ทีม และกลายเป็นจุดแข็งที่เด่นชัด


อลิสซน กล่าวเสริมถึงเรื่องนี้ว่า “ผมคิดว่า สิ่งสำคัญของการเล่นด้วยเท้า คือเรื่องความมั่นใจ คุณต้องอยู่ในทีม ที่ชอบให้ผู้เล่นเอาต์ฟิลด์เล่นร่วมกับผู้รักษาประตูเช่นกัน นอกจากนี้ คุณต้องมีผู้จัดการทีมที่เปิดอิสระให้คุณ ในการเล่นรูปแบบนี้”


หากผู้เล่นของคุณชอบที่จะหันหลังให้คุณ เมื่อคุณได้ครองบอล คุณก็ทำได้เพียงเตะบอลสาดยาว ทำได้เพียงแค่นั้นจริงๆ แม้ผมจะมีทักษะ ในการเล่นฟุตบอลด้วยเท้าติดตัวอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม ผมก็ทำงานหนักมาก ตอนเล่นให้กับทีมเยาวชน” 


“ผมมีผู้จัดการทีมเยาวชน ที่ยกย่องเป็ป กวาร์ดิโอล่า ดังนั้น เขาจึงพยายามดำเนินรอยตาม ในทีมระดับยู-20 ..... สิ่งเหล่านั้น ช่วยเหลือผมได้มากเลย” 


อลิสซน กล่าวทิ้งท้ายว่า การใช้เท้าของเขาพัฒนาขึ้นอีกเล็กน้อย สมัยที่ย้ายไปเฝ้าเสากับโรม่าแต่ที่ลิเวอร์พูล นี่คือสถานที่ที่เขารู้สึกว่าสบายใจในการลงเล่นมากที่สุด เพราะเพื่อนร่วมทีมอยากให้เขาเป็นนักเตะเอาต์ฟิลด์คนที่ 11 ในสนาม


การเป็นผู้รักษาประตู ที่เน้นเรื่องการออกบอลด้วยเท้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สิ่งที่มาควบคู่กัน นั่นคือเรื่องของ “ความเสี่ยง” อลิสซน ไม่ใช่ผู้รักษาประตูที่สมบูรณ์แบบ เขาเคยสร้างจังหวะผิดพลาดในสนามแข่งขัน เอาที่หลายคนจำได้ เกิดขึ้นในเกมกับเลสเตอร์ ซิตี้ 


แต่สิ่งที่เขาเลือกทำ ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่เป็นการเรียนรู้จากความผิดพลาด และการจัดการบริหารความเสี่ยง โดยเขาบอกว่า “ผมเป็นผู้รักษาประตู ที่กำลังเล่นฟุตบอลด้วยเท้าตัวเอง ดังนั้น ผมต้องกล้าเสี่ยง” 


“บางครั้ง ผมก็ต้องตัดสินใจ ในช่วงวินาทีสุดท้าย เพี่อเป็นการรอตัวเลือก ผมรอให้เซ็นเตอร์แบ็คสร้างทางเลือก และรอให้ฟูลแบ็กปรากฏตัวเช่นกัน” แม้จะเป็นนายทวารที่กล้าได้กล้าเสีย แต่เขาบอกว่า เขาไม่ใช่คนประเภทที่ตะบี้ตะบันเสี่ยงอยู่แบบนั้น เขาเรียนรู้จากความผิดพลาดอยู่เสมอ


จังหวะไหนที่เสี่ยงได้ เขาพร้อมทำแบบไม่ลังเล แต่จังหวะไหนที่ไม่ควรเสี่ยง เขาก็ไม่ลังเลเช่นกัน ที่จะหวดบอลยาวขึ้นอัฒจันทร์ เพื่อให้เกมมาเริ่มต้นใหม่ อลินซน ทิ้งท้ายว่า “เคล็ดลับของคนฉลาดคือการเรียนรู้จากความผิดพลาดบางครั้ง ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นกับตัวผมเอง”


“ผมเคยเสี่ยง และปล่อยบอลออกจากเท้า ในเวลาที่สายเกินไปแล้ว ดังนั้น ผมต้องบริหารความเสี่ยง โดยเฉพาะในศึกพรีเมียร์ลีก เพราะว่าสไตล์การเล่นของพรีเมียร์ลีก มีความแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่เรื่องสภาพร่างกาย และการตัดสินของกรรมการ”


“ผมตระหนักดีว่า ผู้รักษาประตูเป็นตำแหน่งที่มีอิทธิพล ข้อผิดพลาดใดๆ ก็ตามที่ผมทำ อาจส่งผลร้ายแรงต่อทีมได้”


เคล็ดลับที่ถือเป็นหนึ่งเคล็ดลับที่มีความสำคัญมากที่สุด นั่นคือเรื่อง “แรงผลักดัน” อย่างที่เราทราบ   อลิสซน ประสบความสำเร็จมาหมดแล้วกับลิเวอร์พูล จากการคว้าทุกแชมป์รายการเมเจอร์ กระนั้น เขายังมีแรงกระหาย ในการเฝ้าเสาด้วยฟอร์มที่ดีอย่างสม่ำเสมอ นี่คือสิ่งที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง 


เขารักษาแรงผลักดัน ในการอยากเป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในการฝึกซ้อม, อยากดีกว่าผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม และอยากเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เป็นได้ จอห์น อัคเตอร์แบร์ค  โค้ชผู้รักษาประตู ที่ทำงานร่วมกับอลิสซน ที่ลิเวอร์พูล คือคนที่ออกมาให้คำตอบในเรื่องนี้ 


โดยกล่าวว่า “ลิเวอร์พูล สร้างสภาพจิตใจแห่งความหิวกระหายให้อลิสซน เมื่อเก็บคลีนชีต 5 นัด ก็ต้องยกระดับเป็น 10 นัด เป้าหมายถูกเติมไปเรื่อยๆ อลิสซน ถูกสอนให้ตั้งเป้าหมายในฐานะบุคคล ให้ดีที่สุดในทุกด้าน เท่าที่เขาจะเป็นได้ เมื่อสูญเสียแรงขับเคลื่อน นั่นคือช่วงเวลาที่จะพบกับหายนะ”


“เขาทำเรื่องยากเป็นเรื่องง่าย คุณต้องสงบสติอารมณ์ภายใต้ความกดดัน เพื่อให้สามารถคิดได้อย่างชัดเจน, รวดเร็ว และตัดสินใจได้ดี เขามีสิ่งนั้น เขารู้ว่า ผู้รักษาประตูทุกคนในโลก ต่างก็ทำผิดพลาดในบางครั้ง ไม่ว่าจะเป็นมานูเอล นอยเออร์ และยาน โอบลัค พวกเขาล้วนเคยผิดพลาด”


“มันยากที่จะพูด ในการบอกว่าเขาเป็นผู้รักษาประตูที่ดีสุดในโลกในเวลานี้  แต่สิ่งที่ผมพูดได้ก็คือ เขาอยู่ในระดับที่สูงมาก และเขาก็ทำอย่างนั้นต่อไป อย่างที่ผมบอกไป อลิสซน มีการรักษาความเข้มข้น, แรงผลักดัน และโฟกัสให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือความท้าทายสำหรับเขา”


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด