แกรี ลินิเกอร์ อดีตผู้เล่นทีมชาติอังกฤษและผู้คร่ำหวอดวงการลูกหนังผู้ดี ออกโรงยุ แมนฯ ซิตี้ ดึง ลิโอเนล เมสซี่ จาก บาร์เซโลน่า มาร่วมงาน เพราะนอกจากเกิดผลดีบนฟลอร์หญ้าแล้ว ทางการตลาดก็ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองผ่านแข้งบัลลง ดอร์ 6 สมัย
อนาคตของ เมสซี่ ในถิ่น คัมป์ นู เกิดเครื่องหมายคำถามเพราะสัญญาเหลือแค่ มิ.ย.2021 แถมเวลานี้สโมสรขาดเสถียรภาพทั้งเรื่องเทรนเนอร์ซึ่งเปลี่ยนมาเป็น โรนัลด์ คูมัน, จะมีการเลือกปธ.สโมสรคนใหม่ และทิศทางองค์กรไร้หางเสือ
เหตุนี้เองจึงมีข่าวว่าดาวเตะวัย 33 ปีพิจารณาชิ่ง คัมป์ นู โดยสถานีต่อไปทีเล็งๆไว้คือ แมนฯ ซิตี้ เพื่อผนึกกำลัง โจเซป กวาร์ดิโอล่า อดีตเทรนเนอร์ซึ่งประสบความสำเร็จร่วมกันมายัง บาร์ซ่า
โดยหนึ่งคนที่หนุนให้เกิดขึ้นคืออดีตกองหน้าเจ้าของฉายา 'มิสเตอร์ ไนซ์กาย'
"มันน่าสนใจจนเราต้องปูเสื่อรอดูว่า เมสซี่ จะอยู่กับ บาร์เซโลน่า ต่อไปหรือทิ้งทีม - หากเป็นแบบหลังก็เศร้าใจแทน'บาร์ซ่า' แต่หากเลือกแบบแรกก็เสียดายแทนเจ้าตัวเพราะคุณภาพฝีเท้าระดับท็อปซึ่งเหลืออีก 2-3 ปี ต้องเล่นอยู่กับมหาอำนาจขาลง ภาพรวมบ้านๆ" ลินิเกอร์ กล่าวกับ 'ทอล์ก สปอร์ต'
https://twitter.com/talkSPORT/status/1296745105672376321
เมสซี่-แมนฯ ซิตี้ เซ็นแล้วชนะทุกฝ่าย
"จินตนาการดูสิ หากเขามาเล่นยังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สโมสรแบบ แมนฯ ซิตี้ ที่เชื่อมโยงกันด้วยผจก.ทีม โจเซป กวาร์ดิโอล่า องค์ประกอบสโมสรพร้อมสรรพเพราะพร้อมลงทุนบนสนามฟุตบอล ควบคู่กับการยกสถานะตัวเองเป็นแบรนด์ระดับโลก - แล้วคงไม่มีใครจะเป็นสะพานเชื่อมที่เหมาะไปกว่านักเตะซึ่งมีฐานแฟนบอลนับร้อยล้านคนทั่วพื้นพิภพนี้"
"มันจะเป็นการเซ็นสัญญาแบบสำเร็จรูป เกิดประโยชน์ในทุกภาคส่วนของ ซิตี้ พวกเขาจะมีสาวกทันทีทั่วโลก"
"เพราะกับสโมสรที่เพิ่งร่ำรวยขึ้นมาอย่าง 'เรือใบสีฟ้า' มันต้องใช้เวลานานกว่าจะสามารถสร้างฐานแฟนบอล ดังนั้นการเซ็น เมสซี่ จึงเป็นเรื่องน่าสนใจจริงๆ - ยิงปืนทีเดียวได้นกสองตัวเพราะคุณภาพของ ลิโอเนล ก็ยังเปี่ยมมนต์ ผมก็ได้แต่หวังว่าเราคงมีโอกาสได้เห็น"
เป๊ป ไม่เคยคุมทีมคว้าแชมป์ ชปล.อีกเลยตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งเวลานั้นมี เมสซี่ เป็นขุนขวานสำคัญ เมื่อพิจารณาว่า ซิตี้ อยากเป็นเจ้ายุโรปใจจะขาด โอกาสก็มีมากขึ้นกับดีลเขย่าโลก
