มิตเชลล์ โรบินสัน เซนเตอร์ นิวยอร์ก นิคส์ ขอเป็นคนรับความผิดที่ทำให้ทีมแพ้ ฟิลาเดลเฟีย 76เซอร์ส ช่วงโอเวอร์ไทม์ 106-112 คะแนน โดยจุดเริ่มเพราะเขาป้องกันพลาดเพลย์ท้ายๆควอเตอร์ 4 จนเวลานี้นำแค่ 3-2 เกมซีรี่ส์ เพลย์ออฟ รอบแรก ฝั่งตะวันออก
นิคส์ นำมาหล่อๆ 96-90 คะแนน ตอนเหลือแค่ 28.2 วินาทีเวลาปกติ สมควรปิดเกมลงได้จากช่วงเวลาที่เหลือ แต่กลายเป็นว่า มิตเชลล์ หลงกลตีฟาวล์ ไทรีส แม็กซี่ย์ ที่โดดยิง 3-คะแนนลงห่วงพร้อมเก็บฟรีโทรว์ทำกลายเป็นทำ 4 แต้มในเพลย์เดียว จี้มาเหลือ 96-94 แต้ม เวลาเหลือ 25.1 วินาที
เหตุการณ์ต่อมาแม้ จอช ฮาร์ต ฟอร์เวิร์ด นิวยอร์ก ได้ยิงฟรีโทรว์แต่ก็ลงแค่ 1 จาก 2 ลูก ไม่สามารถฉีกแต้มให้ขาดเพราะแค่ 97-94 คะแนน กระทั่งมาถูกผู้เล่นดีกรีพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยมแห่งปียิงไกลใส่อีกดอกตีเสมอ 97-97 แต้ม ลากการแข่งขันถึงโอเวอร์ ไทม์ แล้วก็ปล้นชัยที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น ยื้อให้สู้ถึงเกม 6 ซีรี่ส์แบบสลับเล่นที่ เวลล์ส ฟาร์โก เซนเตอร์ บ้าง
https://twitter.com/nypostsports/status/1785584252127469617
นึกย้อนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โรบินสัน ยังเจ็บใจไม่หาย สมควรเล่นให้ฉลาดกว่านั้น
“ผมต้องยืดอกรับมันอย่างลูกผู้ชายว่าเป็นคนทำแม่งพังเอง” การเปิดปากผ่าน ‘นิวยอร์ก โพสต์ สปอร์ตส์’ หลังเจ้าตัวฟื้นกลับมาจากปัญหาบาดเจ็บข้อเท้าทำให้พลาดแข่งไป 1 เกม
“ผมน่าจะปล่อยให้หมอนั่นเล่นเพลย์นั้นไป เพราะตัวเองไม่อยู่ในตำแหน่งที่ป้องกันได้หรือขัดขวางใดๆ ทำเสียเรื่องเอง”
“พอหายหน้าไปเกมนึงแล้วแม่งโคตรแย่เลยพวก”
“ต้องพยายามฟื้นจังหวะการเล่นและไหนยังกังวลเรื่องอาการเจ็บอีก วิธีการเล่นเพลย์ออฟมันเข้มข้นแตกต่างกับฤดูกาลปกติ”
“ดังนั้นต้องหาวิธีจับทางและเกาะเกี่ยวมันไป”
มิตเชลล์ มี 2 แต้ม, 7 รีบาวน์ด, 3 สตีลและสองบล็อค บนคอร์ต 25 นาทีงานหลักคือป้องกัน โฌแอล เอ็มบีด เซนเตอร์คู่แข่ง สำดรับเกม 6 ซีรี่ส์ แข่งพฤหัสฯที่ 2 พ.ค.
