:::     :::

ประเมินนัดแรก "อาร์เตต้า"

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
มิเกล อาร์เตต้า ผ่านการคุมทีม อาร์เซน่อล นัดแรกเป็นที่เรียบร้อยในเกมพรีเมียร์ลีกนัดบ็อกซิ่งเดย์ที่บุกเสมอ บอร์นมัธ 1-1 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา

"ปืนใหญ่" ตกเป็นฝ่ายตามหลังก่อนเมื่อ แดน กอสลิ่ง ทำประตูให้เจ้าถิ่นตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนได้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง กองหน้าตัวเก่งทำประตูตีเสมอในครึ่งหลัง

ผลเสมอล่าสุดทำให้ อาร์เซน่อล มีเพิ่มอีกเพียงคะแนนเดียวเป็น 24 คะแนน ยังรั้งอันดับ 11 ตามเดิมและอยู่ห่างพื้นที่ท็อปโฟร์ 8 คะแนน

การเริ่มต้นด้วยผลเสมอไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก แต่นัดแรกของ มิเกล อาร์เตต้า ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องพูดถึงนอกเหนือจากผลการแข่งขัน

ด้านบวกที่เกิดขึ้น

ข้อดีที่เห็นชัดเจนที่สุดในนัดนี้คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจการเล่นที่มีมากทีเดียวและทำให้ทีมสามารถไล่ตีเสมอได้แบ่งแต้มกลับออกได้

แข้งปืนใหญ่ดูจะมีแรงกระตุ้นและความกระหายในการเล่นอย่างมาก ได้บอลก็ลุยเข้าใส่ต่อเนื่อง ไม่ดึงจังหวะจนช้าเกินไปหรือมัวแต่ถ่ายบอลวนไปมา 

เป็นการเล่นที่สัมผัสได้ถึง "พลังงาน" มากกว่าหลายนัดที่ผ่านมาทั้งที่นัดนี้ใช้เรี่ยวแรงกันไม่น้อยด้วยความที่ฝนตก สนามลื่น และวิ่งลำบาก


อาร์เซน่อล สามารถครองบอลได้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ซึ่งถือว่ามากพอสมควรกับการเล่นนอกบ้าน 

การขึ้นเกมจากแดนหลังที่เป็นสไตล์ของ อูไน เอเมรี่ ยังมีอยู่ แต่มีความมั่นใจมากขึ้นในการออกบอล แม้ก็ไม่ถึงขนาดไร้ที่ติเพราะยังมีจังหวะพลาดให้เห็นบ้าง 

นัดนี้แผงแนวรับมีการปรับเปลี่ยนเพราะ คาลั่ม แชมเบอร์ส ติดโทษแบน โซคราตีส ปาปาสตาโธปูลอส จึงได้กลับมาเป็นตัวจริงคู่กับ ดาวิด ลุยซ์ ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ขณะที่แบ็กขวา-ซ้ายใช้ตัวเลือกจำเป็นทั้ง เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนลส์ และ บูคาโย่ ซาก้า

ขณะที่แดนกลางก็ทำหน้าที่กันได้ที่เป็นการจับคู่กันระหว่าง กรานิต ชาคา และ ลูคัส ตอร์เรยร่า

ชาคา มีผลงานดีขึ้นนับตั้งแต่กลับมาจากถูกตัดออกจากทีมในกรณีมีปัญหาขัดแย้งกับแฟนบอล นัดนี้ช่วยทีมได้อย่างมากทั้งเกมรุกและรับ

กองกลางทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ สามารถคอนโทรลเกมแดนกลางของสนามได้อย่างดี ยิ่งมีลูกหาบอย่าง ตอร์เรยร่า คอยช่วย ก็ยิ่งเล่นในสไตล์ที่ตัวเองถนัดได้

ตอร์เรยร่า เป็นตัวคอยเก็บกวาด คอยซ้อน และป่วนการเล่นของ บอร์นมัธ ทำให้คู่แข่งไม่สามารถเจาะตรงได้อย่างถนัด เรียกได้ว่าเป็นการเล่นที่เคยสร้างความประทับใจให้แฟนบอลในฤดูกาลที่แล้วอย่างมาก

ฤดูกาลนี้ ตอร์เรยร่า หลุดเป็นสำรองบ่อยครั้งจนทำให้มีข่าวว่าต้องการย้ายทีม โดยมีทีมดังอย่าง นาโปลี พร้อมดึงตัวกลับไปเล่นในเซเรีย อา อีกครั้ง


แต่ช่วงหลังนับตั้งแต่ เอเมรี่ ถูกปลดออกไป อดีตแข้งซามพ์โดเรียก็กลับมาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางให้ทีมอีกครั้งเช่นเดียวกับนัดแรกในการคุมทีมของ อาร์เตต้า

การลงเล่น ตอร์เร่า ไม่เพียงทำลายเกมรุกของคู่แข่งเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ ชาคา เล่นได้ง่ายขึ้นซึ่งในฤดูกาลที่แล้ว 2 คนนี้ก็เคยจับคู่กันทำผลงานได้ดีในหลายนัด

เมื่อคู่มิดฟิลด์ตัวกลางสอดประสานกันดี ตัวปั้นเกมอย่าง เมซุต โอซิล ก็เล่นได้อย่างหายห่วง ไม่ต้องพะวงเกมรับมากไป

โอซิล เป็นหนึ่งใน 3 คนที่กลับมาเป็นตัวจริงในนัดนี้หลังพลาดช่วยทีมในเกมเยือน เอฟเวอร์ตัน เพราะบาดเจ็บ และ เฟร็ดดี้ ลุงเบิร์ ก็ให้สัมภาษณ์ว่าต่อให้ไม่เจ็บก็ไม่เลือกใช้งานอยู่ดีหลังทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมในเกมพ่ายคาบ้านต่อ แมนฯ ซิตี้ ที่ถอดถุงออกแล้วเตะทิ้งตอนถูกเปลี่ยนตัวออก

นัดนี้ โอซิล กอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองกลับมาได้ด้วยการสร้างสรรค์เกมรุกอย่างต่อเนื่องโดยที่สร้างโอกาสจะแจ้งถึง 4 ครั้ง มากกว่านักเตะอาร์เซน่อลที่เคยทำได้ในนัดเดียวฤดูกาลนี้

อาร์เตต้า ถึงกับออกมาชมหลังจบเกมว่า "เขาเล่นได้ดีมากๆ เขาทำเกมได้และสามารถสร้างความแตกต่าง เราน่าจะยิงได้ 3 หรือ 4 ประตูจากการผ่านบอลของเขา แต่จังหวะสุดท้ายไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ"

กุนซือมือใหม่วัย 37 ปี ยังได้กล่าวถึงฟอร์มโดยรวมของทีมว่า "ผมพอใจมากๆ กับสิ่งที่เห็นทั้งเรื่องของทัศนคติ คาแร็กเตอร์ พาสชั่นที่เราแสดงออก การต่อสู้ และสปิริตที่ทีมทำให้เห็น มันเป็นสิ่งถูกต้อง บางทีอาจดีกว่าที่ผมคาดหวังตลอด 90 นาที"

"หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเกมคือสิ่งที่เราเตรียมพร้อมมาแล้ว พวกเขาเข้าใจและพยายามทำความเข้าใจ เราเพียงขาดการจบสกอร์สุดท้าย"

"มันน่าจะออกมายอดเยี่ยมเพราะมันจะช่วยให้เรายกระดับขึ้นทั้งในแง่ของพละกำลังและความมั่นใจในทีม แต่เราจำเป็นต้องวิเคราะห์ฟอร์มการเล่น มีด้านบวกเกิดขึ้น แต่แน่นอนว่าก็มีอีกหลายจุดที่ต้องปรับปรุงอีกมาก"

สิ่งที่ต้องแก้ไข

อย่างที่ มิเกล อาร์เตต้า ว่าเอาไว้แม้มีหลายอย่างน่าประทับใจและดีกว่าที่คาดเอาไว้ แต่ก็มีอีกไม่น้อยที่ต้องแก้ไข

อย่างแรกเลยคือ การจบสกอร์ที่ขาดประสิทธิภาพจนน่าเป็นห่วง อาร์เซน่อล ได้โอกาสลุ้นทำประตูมากถึง 17 ครั้ง มากกว่าค่าเฉลี่ยในยุค เอเมรี่ ราว 2 เท่า แต่ว่าส่งบอลตรงกรอบได้เพียง 2 ครั้งเท่านั้น อีก 15 ครั้งเป็นการยิงนกตกปลาอย่างเสียของหรือไม่ก็ติดบล็อก


ไม่แปลกที่นักเตะหลายคนให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า เสียดายที่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ และเหตุผลสำคัญก็คือการใช้โอกาสที่ค่อนข้างเปลือง 

อาร์เซน่อล น่าจะมีโอกาสได้ลุ้นยิงอีกเพียบหากการเปิดบอลจากด้านข้างเข้าเป้ากว่านี้ซึ่งกลุ่มผู้เล่นดาวรุ่งหลายคนไม่ว่าจะเป็น รีสส์ เนลสัน, เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนลส์ และ บูคาโย่ ซาก้า ถูกวิจารณ์พอสมควร 

บอร์นมัธ มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเพียบ เปิดช่องให้ อาร์เซน่อล ได้โจมตีอย่างมาก หลายครั้งหลุดขึ้นริมเส้นและได้โอกาสเปิดเข้าไปลุ้น ทว่าก็เปิดทิ้งเปิดขว้างอย่างน่าเสียดาย

มิเกล อาร์เตต้า ต้องรีบปรับให้ได้โดยด่วนเพราะหากเจอคู่แข่งที่เกมรับเหนียวแน่นแข็งแกร่งกว่านี้ อาร์เซน่อล อาจไม่มีโอกาสแม้กระทั่งได้ลุ้นเปิดด้วยซ้ำ

นี่คือภาพรวมทั้งดีและแย่ของ อาร์เซน่อล นัดแรกยุค มิเกล อาร์เตต้า ซึ่งแน่นอนว่าคงต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนกว่านี้ 

นัดต่อไปที่ต้องเปิดบ้านรับมือ เชลซี คงได้เห็นดำเห็นแดงอีกพอสมควร 


ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด