คุยกับ บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม มือกาวคนใหม่ช้างศึก
ด้วยวัยย่าง 30 ปี ผู้รักษาประตูหน้าหล่อรายนี้ผ่านอุปสรรคมากมาย ดังนั้นการมีชื่อติดทีมชาติไทย ครั้งแรกในชีวิตไม่ใช่เรื่องฟลุ๊กแน่นอน
วันนี้เราได้โอกาสพูดคุยกับเขา หวังว่าทุกคนจะรู้จัก “ตี๋” บุญยเกียรติ มากขึ้นในคอลัมน์นี้
แมน : สวัสดีครับตี๋ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับกับการติดทีมชาติไทยครั้งแรก
บุญเกียรติ : สวัสดีครับพี่ ขอบคุณมากๆ ครับ
แมน : ตี๋เริ่มเล่นฟุตบอลได้ยังไงครับ
บุญยเกียรติ : เล่นกับพี่ๆ แถวบ้านครับ เหมือนเด็กต่างจังหวัดทั่วไป พอเล่นก็สนุกและรักมันครับ
แมน : ตำแหน่งแรกที่เล่นคือตำแหน่งอะไร
บุญยเกียรติ : ตำแหน่งแรกก็เป็นผู้เล่น เล่นหมดทุกตำแหน่งเลยครับ ก่อนจะถอยมาเป็นผู้รักษาประตู จากที่เล่นแค่ในหมู่บ้าน ก็ได้เป็นตัวแทนของตำบล และเป็นตัวแทนจังหวัดลำพูน ก่อนจะเจอ “น้าติ๊ก” สมชาย ยิ้มศิริ ที่ทำอคาเดมีของลำพูน
แมน : เริ่มจริงจังกับฟุตบอลอาชีพตอนไหนครับ?
บุญยเกียรติ : ตอนอยู่ทีมเยาวชนของ ลำพูน อายุประมาณ 17-18 ปี พอจบ ม.6 ก็ได้เข้ามาในกรุงเทพฯ น้าติ๊ก สมชาติ ได้ส่งให้มาฝึกฟุตบอลกับ “โค้ชโต” นิพล มาลานนท์ ครับ เคล็ดลับวิชาไม่มีอะไรเลยครับ ผมแค่ต้องการเรียนรู้ทุกอย่าง ขยัน มุ่งมั่น ที่สำคัญเลยต้องอดทนครับ
แมน : ก้าวเข้ามาเล่นฟุตบอลระดับอาชีพได้ยังไง
บุญยเกียรติ : ผมได้ขออาร์มี่ ยูไนเต็ด เข้ามาฝึกซ้อมกับ โค้ชโต ครับ พอฝึกไปเรื่อยๆ โค้ชต่างชาติของอาร์มี่ฯ ชอบเลยได้เซ็นสัญญากับทีมครับ
แมน : ได้ยินว่าตี๋เกือบได้เป็นดาราจริงไห แล้วทำไมถึงมาเลือกเล่นฟุตบอล
บุญยเกียรติ : ไม่ถึงขั้นได้เป็นครับ แค่ติดต่อมาเฉยๆ ครับ แต่ตอนนั้นผมชอบฟุตบอลครับ เลยมุ่งมั่นตั้งใจไปให้สุดทางครับ
แมน : เคยโดนสบประมาทบ้างไหมว่ามีดีแค่หน้าตา รับมือและก้าวข้ามอย่างไร
บุญยเกียรติ : มีอยู่แล้วครับ วิธีรับมือคืออยู่เฉยๆ ไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้นครับ ผมมีความพยายามสูงอยู่แล้ว ผมก้มหน้าก้มตาทำงานหนัก ผมเชื่อว่าเดี๋ยวคำตอบว่าเราดีหรือไม่ดีมันจะมาเอง
แมน : วินาทีแรกที่รู้ว่าติดทีมชาติไทยรู้สึกยังไงบ้างครับ
บุญยเกียรติ : หูดับ 555 มันเป็นคำอธิบายไม่ถูก มันมากกว่าดีใจ มันอึ้งไปหมดเลยครับ
แมน : อะไรที่คิดว่าเป็นจุดเด่นของเราที่ทำให้ ชนะใจ อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทยครับ
บุญยเกียรติ : อาจจะเป็นเพราะผมได้ลงสนามสม่ำเสมอกับ อุทัยธานี และอาจจะเป็นการเล่นบอลด้วยเท้าครับ โดยเฉพาะจังหวะเปิดบอลยาวในจังหวะสวนกลับเร็ว ผมคิดว่าทำได้ดีและเตะได้แม่น
แมน : เวลาให้สัมภาษณ์ พี่สังเกตว่าตี๋ไม่ลืมที่จะให้เครดิต ทั้ง “น้าติ๊ก” สมชาย ยิ้มศิริ และ “มหาโต” นิพนธ์ มาลานนท์ เลย
บุญยเกียรติ : ถ้าไม่มีโค้ชทั้ง 2คน ที่ช่วยปลุกปั้นผม คงไม่มีตี๋ บุญยเกียรติ ในวันนี้ครับ ผมรำลึกสิ่งที่ท่านสอนเสมอ ผมจำมาตลอด ทั้งการสู้และอดทนจนมาถึงวันนี้ครับ
แมน : เป้าหมายในการติดทีมชาติไทยครั้งนี้ ตั้งไว้ยังไงบ้างครับ
บุญยเกียรติ : จะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากแคมป์ทีมชาติให้ได้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
แมน : อะไรที่คิดว่าเรามายืนอยู่ในจุดนี้ กับ ฐานะนักเตะอาชีพ ได้เล่นลีกสูงสุด และติดทีมชาติไทย
บุญยเกียรติ : หัวใจครับที่ ขยัน มุ่งมัน อดทนรอโอกาส พอมันได้มาแล้วมันคุ้มที่เราพยายามมาตลอด
นี่ของตัวอย่างของคนที่ไม่ยอมแพ้ ขยัน อดทน จนประสบความสำเร็จ ขอเป็นกำลังใจให้ “ตี๋” บุญยเกียรติ วงค์ษาแจ่ม ได้โอกาสลงเฝ้าเสาให้ทีมชาติไทยครับ
ถ้าชอบก็กดไลค์ ถ้าใช่ก็ฝากแชร์กันด้วยนะครับ