:::     :::

เส้นทางที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของ โธมัส ปาร์เตย์

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ Zero to Hero โดย บังคุง
755
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ตั้งแต่ย้ายจากแอตเลติโก้ มาดริด

เพื่อมาร่วมทีมอาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2020-21 “โธมัส ปาร์เตย์สามารถกลายเป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญในแดนกลาง ทำหน้าที่เป็นผึ้งงานได้อย่างแข็งขัน อย่างไรก็ตาม กว่าที่เขาจะก้าวมาประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย


ย้อนเวลากลับไป ปาร์เตย์ เหมือนกับเด็กชายขาวแอฟริกัน ส่วนใหญ่ ที่เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะยากจน เส้นทางชีวิตของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มีเพียงความยากลำบากที่ต้องเผชิญ 


เขาต้องต่อสู้ชีวิตอย่างหนัก โดยมีฟุตบอลเป็นเครื่องมือในการช่วยให้หลุดพ้นจากความยากลำบากเหล่านั้น ช่วงนี้ เราลองไปติดตามชีวิตบางเสี้ยวบางตอนของกองกลางวัย 28 ปีรายนี้กันหน่อย เชื่อเหลือเกินว่า มันอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครสักคน 

ปาร์เตย์ เกิด และเติบโตที่ โครโบ โอดูมาเซ่, เมืองที่แทรกตัวอยู่ทางตะวันออกของประเทศกาน่า อย่างที่บอก เขาเกิดมาในครอบครัวขนาดใหญ่ พร้อมมกับมีฐานะยากจน โดยพ่อของเขาทำงานในทีมฟุตบอล นั่นเป็นการส่งต่อแรงบันดาลใจให้เขาด้วย 


ขณะที่แม่ของเขา ประกอบอาชีพเป็นแม่ค้า เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 8 คนอย่างสุดความสามารถ แม้ครอบครัวจะไม่มีเงินทองมากมายนัก กระนั้น พวกเขาก็กัดฟันเลี้ยงดู เพื่อไม่ให้ลูกต้องลำบากเกินไป 


จากแรงบันดาลใจผ่านพ่อ ต่อยอดให้ปาร์เตย์ เริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางลูกหนังอย่างจริงจัง ก่อนเข้าอะคาเดมี่ของทีมท้องถิ่นอย่างโอโดเมตาห์สถานที่ที่เขาคอยเพาะบ่มฝีเท้า จนพัฒนาขึ้นมาอย่างน่าชื่นชม


แม้จะไม่ได้เป็นนักเตะที่เก่งที่สุด เมื่อเทียบกับเด็กรุ่นเดียวกัน ทว่าพ่อยังคงเชื่อมั่นในพรสวรรค์ของลูกชายคนนี้เสมอ โดยตัดสินใจเซ็นสัญญากับเอเย่นต์ เพื่อต่อยอดการไปเล่นฟุตบอลในทวีปยุโรป 

การเดินทางไปทดสอบฝีเท้าที่ยุโรปของปาร์เตย์ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะกับครอบครัวที่ไม่มีเงินทองมากมาย ที่จะนำมาจ่ายค่าเครื่องบิน, ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายแบบจิปาถะ 


อย่างไรก็ตาม พ่อของเขายังคอยทำทุกอย่าง ผ่านการเก็บหอมรอมริบ และรวบรวมเงินจากทุกช่องทาง เพื่อนำมาใช้ในการเดิมพันอนาคต โดยที่ไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ปาร์เตย์ จะพบกับความสำเร็จหรือไม่ 


ปาร์เตย์ เริ่มเล่าวว่าพ่อไม่เคยบอกผมหรอกว่า ท่านลำบากมากแค่ไหน โดยภายหลัง ผมถึงมารู้ว่า พ่อต้องยอมขายทรัพย์สิน เพื่อส่งผมมายังยุโรป เอเย่นต์เป็นคนบอกผมในเรื่องนี้เอง


ย้อนเวลากลับไป เหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะพ่อรู้ดีว่า หากพ่อตัดสินใจบอกผมไปแล้ว ผมก็จะไม่ขอรับเงินพวกนี้ และไม่ยอมมาทดสอบฝีเท้าอย่างแน่นอน สำหรับพ่อ ท่านต้องใช้ความพยายามอย่างมหาศาล


พ่อต้องขายของส่วนตัว เพื่อนำเงินมาทำเรื่องของเอกสาร รวมถึงซื้อรองเท้าสตั๊ดให้ผม ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็กนั้น พ่อก็ช่วยเหลือผมมาตลอด หากว่าไม่มีรองเท้าสตั๊ด คุณก็ไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้หรอก

ปาร์เตย์ กล่าวถึงการออกมาเล่นฟุตบอลในยุโรปบ้างว่าเอเย่นต์ถามว่า ผมต้องการอะไร ? ผมตอบเขาไปว่า ผมต้องการจะประสบความสำเร็จกับการเล่นฟุตบอลอาชีพ !!! เพื่อเป็นการช่วยเหลือครอบครัวของผม


เอเย่นต์ เลยอยากพาผมไปทดสอบฝีเท้าที่ประเทศสเปน แต่ยังไม่บอกว่าเป็นทีมไหน ผมตัดสินใจไปกับเอเย่นต์ ที่รับช่วงดูแลเรื่องเอกสาร ผมไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากการฝึกซ้อม, กิน และนอน


สำหรับผมแล้ว ผมไม่รู้ว่าต้องไปยุโรปวันไหน หรือเวลาใดด้วยซ้ำไป กระทั่งในวันหนึ่ง เอเย่นต์ บอกกะบผมว่า วันนี้ผมต้องเดินทางแล้วปาร์เตย์ ทิ้งท้ายถึงการไปทดสอบฝีเท้ากับแอตเลติโก้ มาดริด 


ผลสุดท้าย ปาร์เตย์ สามารถผ่านการทดสอบฝีเท้ากับพลพรรคตราหมีเป็นผลสำเร็จ ก่อนจะเริ่มต้นฝ่าฟันกับทีมสำรอง และการต้องมาเล่นกับ เรอัล มายอร์ก้า กับอัลเมเรีย ในรูปแบบการยืมตัว 


แต่อุปสรรค์เหล่านั้น ก็ไม่ยากเกินความพยายามของเขา เมื่อเขาก้าวมาเล่นทีมชุดใหญ่ของพลพรรคโลส โคลโชเนรอสเป็นผลสำเร็จ ตามด้วยการกลายมาเป็นนักเตะค่าตัว 50 ล้านยูโรของอาร์เซน่อล และนักเตะทีมชาติกาน่า อีกด้วย 


สุดท้ายแล้ว คุณพ่อของปาร์เตย์ คงอดภาคภูมิใจไม่ได้ว่า การยอมเสียทรัพย์สินทุกอย่างที่มีในวันนั้น สามารถผลักดัน จนลูกชายมาไกลเกินความฝันเป็นที่เรียบร้อย

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด