นักฟุตบอลที่เคยชกต่อยกันในสนามเป็นเหตุการณ์ที่มีให้เห็นเรื่อยๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนละทีม ส่วนการลงไม้ลงมือกับเพื่อนร่วมทีมฝั่งเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
นั่นทำให้เหตุการณ์ระหว่าง มาเน่ กับ ซาเน่ เป็นเรื่องใหญ่มากๆ
ชนวนเหตุสำคัญที่ลงเอยจนกลายเป็นความร้าวฉานในแคมป์เสือใต้เกิดขึ้นในนาที 83 เมื่อ ลีรอย ซาเน่ เก็บบอลได้กลางสนาม และตั้งใจจ่ายให้ ซาดิโอ มาเน่ ทว่าลูกจ่ายค่อนข้าง "กั๊ก" น้ำหนักและทิศทางไม่ได้ นาธาน อาเก้ กองหลังซิตี้จึงตัดบอลไม่ยาก
ซาเน่ จึงหันไปโวยวายพร้อมออกอาการโมโหใส่ มาเน่ ที่ไม่ขยับเข้ามารับบอลสั้น แต่ดันเตรียมวิ่งฉีกไปข้างหน้าเพื่อรับบอลแทงทะลุช่อง
หากมองในมุมของทั้งสองฝั่ง ลีรอย ซาเน่ ก็คิดว่าหาก ซาดิโอ มาเน่ ไม่ได้วิ่งฉีกหนีไปข้างหน้า และเลือกขยับมาหาตัวเอง จังหวะนี้ก็คงเล่นต่อกันได้ ไม่เสียบอลให้คู่แข่ง
แต่หากมองในมุมของ มาเน่ ก็เข้าใจได้เช่นกันตรงที่อดีตแข้ง ลิเวอร์พูล คิดว่า ซาเน่ น่าจะแทงทะลุช่องให้ตัวเองได้วิ่งเข้าหาเขตโทษเรือใบสีฟ้า และมีโอกาสลุ้นทำประตูได้
ทั้งสองคิดต่างกัน ไม่เข้าใจกันในการเล่นจังหวะนี้
พอลูกจ่ายของ ซาเน่ ออกมากั๊กๆ จนเหมือนว่าจ่ายให้ คิงส์เลย์ โกมัน หรือไม่ บาเยิร์น ก็เลยเสียบอล และตามด้วยการมีปากเสียงกันระหว่าง ซาเน่ และ มาเน่ ซึ่งอาการของ มาเน่ ก็เห็นได้ชัดว่ายังงงๆ ที่ตัวเองโดนตำหนิ
จากนั้นก็เป็นเหตุการณ์ภายในห้องแต่งตัวหลังจบเกมที่กลายเป็นข่าวใหญ่เมื่อ มาเน่ ชกเข้าที่ใบหน้า ซาเน่ จนมีแผลแตกบริเวณริมฝีปากก่อนที่เพื่อนร่วมทีมคนอื่นต้องรีบเข้ามาแยกทั้งสองออกจากกัน
สาเหตุอื่นๆ ล้วนมีผลให้อารมณ์ของ ซาเน่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง มาเน่ เดือดดาลจนลงมือกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ในสนามที่ บาเยิร์น เป็นรอง แมนฯ ซิตี้ อย่างมาก
สกอร์ตามหลังถึง 0-3 เกมรุกขาดๆ เกินๆ พอมีโอกาสแต่ก็ทำไม่ได้ ขณะที่เกมรับก็พลาดง่ายจนเสียประตู หลายสิ่งหลายอย่างไม่เป็นใจเอาเสียเลย นักเตะเองก็กดดันมากขึ้นเรื่อยๆ และเกิดอารมณ์หงุดหวิดได้ง่าย
ซาเน่ เองก็ "อาจ" ใช้ถ้อยคำรุนแรงพอสมควรในการด่าทอ มาเน่ จนทำให้แนวรุกเซเนกัลคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ และเลือกใช้วิธีที่ผิดในการตอบโต้
ที่สำคัญ โดยธรรมชาติของมนุษย์ที่หากมีปากเสียงกันไปเรื่อยๆ และไม่รู้จักควบคุมตัวเองก็มักลงเอยด้วยการใช้กำลังในการยุติข้อพิพาท ความต่างกันมีเพียง ใครลงมือก่อน และเหตุการณ์นี้เป็น ซาดิโอ มาเน่
วิเคราะห์ให้เห็นถึงลักษณะนิสัยที่ "อาจ" มีส่วนต่อเหตุการณ์นี้ เริ่มกันที่ ซาดิโอ มาเน่
แฟนบอลเห็นอยู่แล้วว่า มาเน่ ไม่ใช่นักเตะที่ "ติ๋ม" แบบว่าอะไรก็ได้เพราะหลายต่อหลายครั้งที่เขาแสดงความไม่พอใจออกมา เช่นตอนอยู่ ลิเวอร์พูล ที่ออกอาการโมโหชัดเจนหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่จ่ายบอลให้ตัวเองที่อยู่ในตำแหน่งดีกว่า
หรือจะเป็นตอนที่ย้ายเข้าถ้ำเสือแล้วมีเหตุการณ์ทะเลาะกับ ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ กุนซือคนก่อน หลังได้ลงเล่นน้อยนิดในเกมสำคัญกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รอบ 16 ทีมที่ผ่านมา
ส่วนในรายของ ลีรอย ซาเน่ นั้นก็พอมีเรื่องมีราวอยู่บ้างสมัยเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ และเคยถูก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ตำหนิเรื่องทัศนคติ
แต่ก็ไม่ได้กับตัวสร้างปัญหาอย่างที่กูรูบางคนว่าเอาไว้ และทุกวันนี้ก็ยังมีแฟนบอลเรือใบชื่นชอบและให้กำลังใจแม้ย้ายออกจากทีมแล้วก็ตาม
มีนักข่าวเยอรมันอย่าง Kessler philipp รวมถึง Manuel Bonke รายงานไปจนถึงขั้นที่ว่า ซาดิโอ มาเน่ ถูกเพื่อนร่วมทีมบางคนซุบซิบกันมาสักพักแล้วว่าทำผลงานไม่คุ้มค่าเหนื่อยที่ได้รับในระดับแพงสุดของบุนเดสลีกาซึ่งมากกว่า 20 ล้านยูโรต่อปี
ตรงนี้สอดคล้องกับผลงานของ มาเน่ ในช่วงหลังกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นช่วงก่อนฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งไม่เหมือนเดิมอีกเลย เขามีส่วนร่วมในการเล่นเกมรุกน้อยมาก
ในช่วงแรกที่ย้ายมาร่วมทีม มาเน่ ยิงได้ถึง 11 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์จากการลงสนาม 23 นัด
แต่หลังกลับมาจากอาการบาดเจ็บ มาเน่ ลงเล่นไปทั้งหมด 9 นัด แต่ยิงไม่ได้แม้แต่ประตูเดียว และมีเพียงหนึ่งแอสซิสต์เท่านั้น
ในหลายเกมสำคัญเขาเป็นเพียงสำรอง เช่นเดียวกับนัดล่าสุดกับ แมนฯ ซิตี้ ที่ขนาด เอริก มักซิม ชูโป-โมติง บาดเจ็บ แต่ โธมัส ทูเคิ่ล ก็ยังมองข้ามและเลือกใช้ แซร์ช นาบรี้ เล่นหน้าเป้า
หลังเกิดเหตุการณ์ช็อกในห้องแต่งตัวขึ้น บาเยิร์น ได้กลับมาซ้อมอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยที่คู่กรณี มาเน่ และ ซาเน่ ต่างมาซ้อมตามปกติ
สโมสรได้สั่งให้ มาเน่ ขอโทษเพื่อนร่วมทีมก่อนการฝึกซ้อมหลังเข้าพบผู้บริหารสโมสรซึ่งคาดว่าคงมีการอบรมกันชุดใหญ่เพราะถือว่าเป็นความร้ายแรงและทำให้สโมสรเสื่อมเสียชื่อเสียง
ในเบื้องต้น มาเน่ ถูกลงโทษปรับเงินจำนวนหนึ่งซึ่ง บิลด์ สื่อดังรายงานว่ามากถึง 5 แสนยูโร พร้อมกับตัดชื่ออกจากทีมชุดที่จะพบกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในเกมบุนเดสลีกา วันเสาร์ที่ 15 เมษายนนี้
บิลด์ รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ซาเน่ เป็นคนร้องขอให้สโมสรอย่าเพิ่งตัดสินใจยกเลิกสัญญาของ มาเน่ รวมถึงอย่าลงโทษเพิ่มเติมไปมากกว่านี้ที่ประกาศออกมาแล้ว เพราะต้องการให้เรื่องจบเพียงแค่นี้
ในระหว่างนี้ ผู้บริหารของเสือใต้กำลังพิจารณาเหตุการณ์อย่างละเอียดต่อไปก่อนมีการตัดสินใจอื่นใดออกมาอีก แต่แน่นอนว่าต้องไม่ให้กระทบกับการแข่งขันในสนามหรือกระทบน้อยที่สุดเพราะทีมกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของฤดูกาลที่ยังเหลือลุ้นแชมป์ 2 รายการสำคัญ
แชมเปี้ยนส์ ลีก อาจพลิกสถานการณ์ลำบากหลังพ่ายมาถึงสามประตู แต่นัดสองได้เล่นในบ้านก็ต้องเต็มที่เอาไว้ก่อน ส่วนในลีกนำหน้า โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เพียง 2 คะแนน ยังต้องลุ้นกันนัดต่อนัด
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดแน่นอนว่าสิ่งที่ ซาดิโอ มาเน่ ทำเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ทั้งในฐานะเพื่อนร่วมทีม และคนในสังคมที่มีกฎหมายระบุเอาไว้ชัดเจนในเรื่องการใช้ความรุนแรง
เขาขอโทษต่อหน้าเพื่อนร่วมทีมแล้ว แต่สิ่งสำคัญกว่าคือทุกการกระทำต่อจากนี้จะเป็นสิ่งพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นและเชื่อว่าเขาได้สำนึกผิดแล้วกับความผิดที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับผลงานในสนามที่ต้องเค้นฟอร์มเก่งออกมา และทำให้ดีกว่านี้ ให้คุ้มกับค่าเหนื่อยระดับซูเปอร์สตาร์ของทีม
หากไม่เป็นไปตามนี้ ซาดิโอ มาเน่ กับ บาเยิร์น มิวนิค ก็คงได้แยกทางกันเร็วกว่าที่คาด
